โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ระทึก! แพท่องเที่ยวถูกน้ำเขื่อนสิรินธรพัด ชนกันท้ายเขื่อน

สำนักข่าวไทย Online

เผยแพร่ 07 ก.ค. 2563 เวลา 01.00 น.

อุบลราชธานี 7 ก.ค. - นักท่องเที่ยวสาวโพสต์คลิปนาทีระทึก แพท่องเที่ยวถูกน้ำจากเขื่อนสิรินธร พัดจนเกิดอุบัติเหตุชนกันท้ายเขื่อน แต่ดีไหวตัวทันให้ทุกคนขึ้นฝั่งก่อน

สาวรายหนึ่งโพสต์คลิปภาพนาทีระทึกขณะที่แพนักท่องเที่ยวลำโดม ถูกกระแสน้ำจากการเปิดประตูระบายน้ำท้ายเขื่อนสิรินธร จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แพนักท่องเที่ยวชนกันจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายวุฒิชัย คำจุล อายุ 33 ปี นายท้ายเรือแพลำที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นประมาณ 15.00 น. วานนี้ (6 ก.ค.) ขณะรับลูกค้าจำนวน 15 คน เพื่อลงล่องแพลำโดมตามปกติ ในช่วงเช้ากลุ่มไลน์ของผู้ประกอบการแพนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่ของเขื่อนสิริธรแจ้งเวลาเปิดประตูระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าช่วงเวลา 10.00-12.00 น. ช่วงดังกล่าวตกลงกันจะไม่นำแพเข้าไปใกล้ประตูระบายน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำจะแรงมาก หลังครบกำหนดทางเขื่อนได้ปิดประตูระบายน้ำ ผู้ประกอบการจึงล่องแพไปผูกไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตามปกติ โดยไม่มีคำเตือนจากทางเขื่อนสิรินธรว่าจะเปิดประตูระบายน้ำอีกครั้ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ทางเขื่อนได้เปิดบานประตูระบายน้ำอีกครั้ง ทำให้ตั้งตัวเกือบไม่ทัน เห็นกระแสน้ำมีความรุนแรงผิดปกติ จึงแจ้งให้นักท่องเที่ยวขึ้นจากน้ำทันที ไม่นานกระแสน้ำได้พัดเชือกที่ผูกแพจนขาดจนไหลไปชนกับแพลำอื่นได้รับความเสียหาย ทรัพย์สินบางส่วนลอยไปตามน้ำ สำหรับความเสียหายประมาณ 10,000 บาท 

ที่ผ่านมาจะมีทุ่นหรือแนวเขตที่ห้ามเข้าแต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าจุดที่ผู้ประกอบการไปจอดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเป็นจุดที่ห้ามหรือไม่ สำหรับกรณีการเปิดประตูระบายน้ำไม่แจ้งนั้นเกิดขึ้นเป็นระยะ จึงอยากให้มีความชัดเจน หรือติดตั้งสัญญาณเตือนก่อนจะเปิดประตูระบายน้ำเหมือนเขื่อนปากมูล ซึ่งเปิดสัญญาณเตือน 3 ครั้งล่วงหน้าให้ชาวบ้านท้ายเขื่อนกลับเข้าฝั่ง

ด้านโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร แจ้งว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มไลน์ ทางเขื่อนได้ปิดประตูระบายน้ำทันที ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต้องตรวจสอบกันอีกครั้ง และผู้ประกอบการเข้ามาในพื้นที่แนวกั้นหรือไม่ และจะมีการประชุมกับทางอำเภอหารือหาแนวทางป้องกันในระยะยาวต่อไป. - สำนักข่าวไทย 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0