โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ระทึก! อนาคตใหม่ กู้เงิน "ธนาธร" 191 ล้านพ่นพิษ ทำชีวิต "แขวนบนเส้นด้าย"

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 11 ธ.ค. 2562 เวลา 04.11 น. • เผยแพร่ 10 ธ.ค. 2562 เวลา 22.45 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ลุ้นระทึก! พรรคอนาคตใหม่ คดีกู้เงิน "ธนาธร" 191 ล้าน พ่นพิษ ทำชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย จากปฐมบทหวังโชว์ความโปร่งใส ไฉนกำลังจะกลับกลายเป็นจุดตายปมนิติกรรมอำพรางของ "ส้มหวาน"

แล้ววันนี้ 11 ธ.ค.อีกไม่กี่วันก็ถึงสิ้นปี 2562 การเมืองก็ร้อนขึ้นมาอีกครา ต้องจับตากันแบบไม่กะพริบ เมื่อคดีเงินกู้ 191 ล้าน ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคอนาคตใหม่ ยอมรับว่าให้พรรคส้มหวาน (อนาคตใหม่) กู้เงินไปใช้ในกิจกรรมการเมือง รวม 191 ล้าน มาถึงวาระที่ กกต.ชุดใหญ่ จะพิจารณาคดี และอาจมีมติอะไรออกมาในวันนี้เลยก็เป็นได้ 

ปฐมเหตุคดีนี้ เกิดจากที่นายธนาธร ไปกล่าวบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย โดยยอมรับว่า ให้พรรคอนาคตใหม่ ยืมเงิน 110 ล้านบาท ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า พรรคได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับนายธนาธร จริง จำนวน 250 ล้านบาท

พอพูดเสร็จก็เป็นเรื่องในเวลาต่อมา เมื่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ปรากฏว่า นายธนาธร แจ้งว่าได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 2 ม.ค. 2562 จำนวน 161.2 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ขณะครั้งที่ 2 จำนวน 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี รวมเป็นเงิน 191 ล้าน โดยสัญญาเงินกู้ทั้ง 2 ฉบับ มี นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้รับสัญญา 

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ชี้ว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 62 ไม่มีข้อความใดที่ระบุให้พรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงิน การที่นายธนาธร ระบุในสัญญาเงินกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ชำระเงินกู้ตามสัญญาพร้อมดอกเบี้ย โดยแบ่งการชำระเป็น 3 งวด ปีแรก 80 ล้าน ปีที่สอง 40 ล้าน และปีที่สาม 41.2 ล้านบาทนั้น อาจขัดแย้งกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 87 เนื่องจากพรรคการเมืองไม่สามารถนำเงินและทรัพย์สินของพรรคไปชำระหนี้การกู้ยืม เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ชัดว่า เงินของพรรคการเมืองต้องไปใช้เกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคและสมาชิก หรือค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมืองเท่านั้น

"หาก กกต.พบว่าการกระทำของนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ขอให้เอาผิดกับนายธนาธร และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเอาผิดนายธนาธร ตามมาตรา 66 วรรคสอง ประกอบมาตรา 125 มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และให้เงินทรัพย์สินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท ตกเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง" นายศรีสุวรรณ กล่าว

มาถึง 27 พ.ย. 62 สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุถึงกรณีนี้ว่า“พรรคอนาคตใหม่ได้มีหนังสือจัดส่งเอกสารบางส่วนแล้ว แต่ขอขยายระยะเวลาการจัดส่งเอกสารบางส่วนต่อ กกต.อีก 120 วัน โดยในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา กกต.ได้รับทราบการจัดส่งเอกสารบางส่วนของพรรคอนาคตใหม่ข้างต้นแล้ว และมีมติให้ขยายระยะเวลาในการจัดส่งเอกสารที่เหลือ โดยให้พรรคอนาคตใหม่จัดส่งภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562”

กกต.ขีดเส้นตาย คดียุบพรรค

ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2562 มีรายงานจากสำนักงาน กกต.ว่า “พรรคอนาคตใหม่ ไม่สามารถส่งหลักฐานการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562” แต่สำนักงาน กกต.เห็นว่า “ก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ขอเวลาจัดส่งเอกสาร 120 วัน มีเจตนาต้องการถ่วงเวลาอยู่แล้ว จึงให้โอกาสจัดส่งเอกสารภายในวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะเอกสารที่ กกต.ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหมายเรียก เป็นเอกสารที่อยู่ในการครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องรอรอบเวลาเพื่อที่จะรวบรวม และถือเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคอนาคตใหม่ที่จะยืนยันให้ กกต.เชื่อว่า มีการกู้ยืมเงินจริง เมื่อพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถนำส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ก็ถือเป็นผลเสียต่อพรรคเอง”

“ดังนั้น กกต.จึงมีมติให้ตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนพิจารณาจากพยานหลักฐานที่พรรคอนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนก่อนหน้านี้ และให้เสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันที่ 11 ธันวาคมนี้”

คดียุบพรรคอนาคตใหม่ จึงนับถอยหลังตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม (วันนี้) เป็นต้นไป

คาดว่าประเด็นที่กกต.จะพิจารณา มี 2 ประเด็น 1.การกู้เงินดังกล่าว ถือเป็นการบริจาคของบุคคลเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปีตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และ 2.การกู้เงินดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เพราะเมื่อพิจารณาตามมาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองกู้ยืมเงิน มาดำเนินกิจการพรรคการเมืองได้ หากชี้แจงว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินบริจาค ซึ่งกฎหมายกำหนดให้บริจาคได้เพียง 10 ล้านบาท

หากมีการนำรายได้ของพรรคไปชำระหนี้เงินกู้ก็จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา กรรมการบริหารพรรคต้องติดคุก  ขณะเดียวกันก็จะต้องพิจารณาถึงรายรับรายจ่ายของพรรคว่ามีการลงบัญชีเงินจำนวนนี้ไว้ในหมวดใด 

ดังนั้น การให้พรรคกู้เงินจึงอาจจะเข้าข่ายของการเป็น"นิติกรรมอำพราง"เป็นการได้เงินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก็จะเข้าข่ายตามมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 92(3) เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคได้

วิบากกรรมอนาคตใหม่ในครั้งนี้ มองกันว่า เลวร้ายสุดอาจรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค หรือตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ทั้ง 12 คน ซึ่งส่งผลถึง ส.ส.ในพรรคหลายสิบคน อาจจะต้องแตกกระจายไปหาพรรคใหม่สังกัดอยู่ ภายใน 60 วัน อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า 

หรืออีกทางหากมองในแง่ดี พรรค"ส้มหวาน" ก็อาจจะรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้เช่นกัน หากลงท้ายแล้วถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด จึงไม่น่าแปลกใจที่ "ช่อ" พรรณิการ์ จะออกมาทิ้งทุ่นกกต.สงสัยมี"ใบสั่งยุบอนาคตใหม่"หรือไม่ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา กกต.ก็ออกข่าวตอบโต้แล้วว่า "ไร้ใบสั่ง" แทบในทันที

เพราะงานนี้ เดิมพันสูงลิบด้วยอนาคตทางการเมืองของ"นายธนาธร นายปิยบุตร น.ส.พรรณิการ"และพลพรรค"ส้มหวาน"กันแบบเต็มๆ 

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0