รอวันค้นพบ! ตะลึงเจอปืนใหญ่พร้อมซากเรือโบราณ จมก้นคลอง คาดสมัยกบฏไทรบุรี

วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคล่อง หูเขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้รับแจ้งจาก นายอัฐพงษ์ เจริญฤทธิ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ว่าได้ขุดพบปืนใหญ่และข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณรวมทั้งโครงสร้างเรือ บริเวณภายในลำคลองสายเก่า ขนาดความกว้าง 5 เมตร ลึก 10 เมตร ที่ไหลผ่านสวนของ พล.ต.สมใจ ชัยศิริ อายุ 80 ปี อดีตทหารประจำการ ที่มีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อปลูกมะพร้าว จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอ นายเสรี พันธุศักดิ์ วัฒนธรรมอำเภอ และ ด.ต.วัศพล เกลี้ยงจุ้ย ชปข.กอ.รมน.ตรัง

สถานที่ดังกล่าวพบชาวบ้านกว่า 100 คน กำลังมุงดูปืนใหญ่ ขนาดความยาว 1.45 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 ซม. ขนาดลำกล้อง 3 นิ้ว ไม้กงเรือ 2 กง เสากระโดงเรือ 3 เสา ความยาว 10 เมตร ไม้หัวเรือ 1 อัน และเศษกระเบื้อง เศษจาน เศษหม้อดิน รวมถึงเศษเครื่องสังคโลกจำนวนมากที่นำขึ้นจากลำคลองดังกล่าว มาตั้งไว้ด้านบน หลังจากช่วงเย็นวานนี้ (23 เม.ย.) นายอัฐพงษ์ ได้รับจ้างจากเจ้าของสวนดังกล่าวมาขุดลอกคลองและปรับปรุงพื้นที่สวน ระหว่างนั้นได้ขุดพบปืนใหญ่และเศษซากเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งโครงสร้างเรือ ก่อนแจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่นให้เข้าตรวจสอบ

พล.ต.สมใจ กล่าวว่า ในอดีตเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เคยมีชาวบ้านในพื้นที่พบปืนใหญ่ 2 กระบอกในพื้นที่ดังกล่าว และได้ส่งมอบให้ทางสำนักศิลปากรเป็นผู้ดูแล โดยส่วนตัวตนคิดว่าสิ่งของต่างๆ อาจจะอยู่ในช่วงสมัยกบฏไทรบุรี ในปี พ.ศ.2380 หรือในช่วงเดียวกันอาจจะมาการเข้ามาจอดเรือเพื่อหลบพายุแล้วเกิดเรืออับปาง แต่เชื่อแน่ว่าจะต้องมีสิ่งของอยู่ภายในลำคลองแห่งนี้อีกมากและพร้อมจะให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอน

ด้าน นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หยุดขุดในลำคลองดังกล่าวและสั่งห้ามให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ พร้อมประสานฝ่ายปกครองให้จัดชุดเวรยามเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เข้ามาตรวจสอบเพื่อเก็บรายละเอียดหาความเป็นมาอย่างแน่ชัดในเร็วๆ นี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า สิ่งของเหล่านี้น่าจะอยู่ในสมัยของรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 สมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรืออาจจะเก่ากว่านั้นในสมัยกบฏไทรบุรี พ.ศ.2380 ช่วงรัชกาลที่ 3 ที่มีอายุกว่า 200 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งในพื้นที่อำเภอปะเหลียนเคยมีประวัติศาสตร์การเชื่อมโยงประวัติความเป็นมา และเคยพบวัตถุโบราณมาแล้ว แต่ต้องรอตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง