เพจรถไฟฟ้าบีทีเอสโพสต์เรื่องราวเจ็บป่วยที่สามารถใช้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินได้ หลังพบหญิงท้องแก่มีอาการแน่นหน้าอก ต้องการความช่วยเหลือที่เร่งด่วน จนประสานความช่วยเหลือส่งตัวถึงโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที
วันนี้ (20 ต.ค.) เพจเฟซบุ๊ก "รถไฟฟ้าบีทีเอส" ได้มาเปิดเผยเรื่องราวดีดี ที่ทำให้คนอ่านต้องคอยลุ้นเอาใจช่วย หลังพบหญิงท้องแก่ใกล้คลอดแต่มีอาการแน่นน่าอก ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายอย่างมากในคุณแม่ทั้งครรภ์ ต้องนั่งแท็กซี่จากบ้านย่านเอกมัย มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลตำรวจ แต่ด้วยระยะทางและการจราจรที่ติดขัดจึงต้องจำใจเปลี่ยนการเดินทางเป็นการเดินทางโดยรถไฟฟ้า ระหว่างทางก็ได้รับการช่วยเหลือและประสานงานจนถึงโรงพยาบาลตำรวจอย่างปลอดภัย จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยฉุกเฉินว่าทางรถไฟฟ้าบีทีเอสมีห้องที่สามารถช่วยเหลือพยาบาลเบื้องต้นผู้ป่วยได้และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ประสานงานโรงพยาบาลปลายทาง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของทุกคน
โดยมีเนื้อหาโพสต์ "สุภาพสตรีท้องแก่ 9 เดือนใกล้คลอดท่านหนึ่ง เธอมีอาการแน่นหน้าอก เป็นอาการที่ไม่น่าไว้ใจเลยสำหรับคนท้องนั่นทำให้สามีของเธอ รีบพาเธอขึ้นแท็กซี่จากบ้านย่านเอกมัย มุ่งหน้าไปร.พ.ตำรวจที่ฝากครรภ์ไว้โดยด่วน แต่การจราจรบนถนนไม่เป็นใจรถติดอย่างหนัก ในขณะที่หญิงท้องแก่ยังแน่นหน้าอก โชว์เฟอร์จึงแนะนำให้ทั้ง 2 คนขึ้นบีทีเอส ตอนนั้นพวกเขามาถึงสถานีอโศกแล้ว ความเจ็บป่วยคาดเดาไม่ได้ คุณแม่ท้องแก่แน่นหน้าอกมากกว่าเดิม เธอรู้สึกหน้ามืด และเป็นลม สามีเธอ ทำตัวไม่ถูก เพราะมากันสองคน จะทิ้งเมียไว้คนเดียว เพื่อวิ่งไปเรียกคนช่วยก็ไม่ได้ โชคดีมีคนใจดี รีบไปตามเจ้าหน้าที่บีทีเอสประจำสถานีอโศกมาช่วยเจ้าหน้าที่รีบประสานรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจให้ และช่วยนำทั้งคู่ไปพักที่ห้องพยาบาลในสถานีก่อน รถพยาบาลยังมาไม่ถึง แต่หญิงท้องแก่อาการไม่น่าไว้วางใจ ทั้งสามี และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ต่างเป็นห่วงและร้อนใจ พวกเขาตัดสินใจ พาคนท้องขึ้นรถไฟฟ้ามุ่งหน้าไปโรงพยาบาลตำรวจทันที โดยมีเจ้าหน้าที่บีทีเอสเดินทางไปพร้อมกับสองสามีภรรยาเพื่อช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะถึงมือหมอ
โดยก่อนออกเดินทาง เจ้าหน้าที่บีทีเอส ได้ประสานโรวพยาบาลตำรวจไว้ล่วงหน้าแล้ว เตียงผู้ป่วย และทีมฉุกเฉินของโรงพยาบาลจึงได้มารออยู่ก่อนแล้วที่สถานีปลายทาง คนท้องถูกนำส่งถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ในที่สุดหมอวินิจฉัยว่า อาการแน่นหน้าอกของเธอ อาจเป็นผลต่อเนื่องจากที่เคยหกล้มก่อนหน้านี้ แต่ประเมินแล้ว อาการไม่ร้ายแรง จึงอนุญาตให้เธอกลับมาพักต่อที่บ้านได้ ทำให้สองสามีภรรยาโล่งใจอย่างมาก ที่ทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หญิงตั้งครรภ์ คือ คุณลักษิกา คำศรีระภาพ ได้อนุญาตให้แอดมินนำเรื่องของเธอมาบอกต่อทุกๆ คนเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เธอฝากบอกทุกคนว่า หากเจ็บป่วยไม่สบายฉุกเฉิน แจ้งเจ้าหน้าที่บีทีเอสได้ เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือดูแลอย่างดีอย่างเช่นที่เธอ สามี และลูกในท้องได้รับ ส่วนลูกน้อยในท้องมีกำหนดคลอดอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขอขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่บีทีเอสอย่างมากที่ช่วยดูแลอย่างดีในวันนั้น และยังไม่คิดค่าโดยสารด้วย ขอขอบคุณมากๆค่ะ"
