เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในช่วงเช้าทีมวิปพรรคพลังประชารัฐได้ไลน์แจ้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขอยกเลิกการนัดประชุมพรรคเนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในวันที่ 1 ก.พ.2565 และขอนัดประชุมพรรคในวันที่ 2 ก.พ.เวลา 09.00 น. ณ อาคารรัฐสภา ชั้น 6 ห้องประชุมพรรคพลังประชารัฐ โดยคาดว่าจะเป็นการแจ้งระเบียบวาระการประชุมสภา ตามปกติ ในระหว่างวันที่ 2-4 ก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พรรคพลังประชารัฐ มีการแจ้งนัดประชุมพรรคในวันที่วันที่ 1 ก.พ. เวลา 14.30 น. ที่อาคารพรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก พร้อมระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุม พร้อมกับขอความร่วมมือสมาชิกทุกคนเข้าประชุม เนื่องจากมีเรื่องแจ้งเพื่อทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมพรรคในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของปี 2565 ที่ พล.อ.ประวิตร จะเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง ท่ามกลางสถานการณ์ที่พรรคพลังประชารัฐต้องเจอ 2 มรสุมสำคัญคือ 1.เหตุการณ์การขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรค พร้อมสมาชิก รวม 21 คน พ้นพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 19 ม.ค.65 ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ทำให้ต้องแต่งตั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคและ ผอ.พรรค มารักษาการตำแหน่งเลขาธิการพรรค แทน และ 2.การพ่ายแพ้เลือกตั้ง ซ่อม ส.ส.ทั้ง 3 เขต คือ จ.สงขลา เขต 6 ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็น ผอ.เลือกตั้งซ่อม, จ.ชุมพร เขต 1 ที่มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเป็น ผอ.เลือกตั้งซ่อมในวันที่ 15 ม.ค.65 และล่าสุดแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) ที่มีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็น ผอ.เลือกตั้งซ่อม
โดยเฉพาะล่าสุด หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.แล้วปรากฏว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทิ้งเป็นปริศนา ว่า “the enemy of my enemy is my friend” (ศัตรูของศัตรูคือมิตร) ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวอย่างมาก โดยเฉพาะผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 3 เขต ที่แพ้ในภาคใต้ และ กทม. ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค และกระทบกับความนิยมของพรรคพลังประชารัฐ ที่ลดลง เป็นตัวสะท้อนอย่างมีนัยสำคัญสร้างความสับสนและตระหนกให้กับ ส.ส. พรรค โดยเฉพาะคิวต่อไปคือเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีกระแสข่าวว่าจะส่ง น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญขีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ทำให้ ส.ส.หลายคนเริ่มประเมินสถานการณ์ และทิศทางของพรรคในอนาคตกันอย่างหนัก.
