โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รอง ผบ.ตร. เข้าเยี่ยมอาการ รตท.ถูกรถชน

สวพ.FM91

อัพเดต 21 ก.ค. 2562 เวลา 06.04 น. • เผยแพร่ 21 ก.ค. 2562 เวลา 06.04 น.
รอง ผบ.ตร. เข้าเยี่ยมอาการ รตท.ถูกรถชน

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าเยี่ยมอาการของ ร.ต.ท.จิตต์เกษม จันทร์รัก ผู้บังคับหมวด กองร้อยที่ 2 กองกำกับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ที่ถูกนายเอกราช ชูใหม่ ขับรถ BMW พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณช่วงด่านเก็บเงินธัญบุรี ก่อนหลบหนีไปและเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว
โดยอาการของ ร.ต.ท.จิตต์เกษม ขณะนี้พบว่ากระดูกหักที่ไหล่ซ้ายและขาซ้าย แพทย์ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว โดยใส่เหล็กดามไว้ คาดว่าเกิดจากการกระแทกอย่างแรง ส่วนบาดแผลถลอก ที่ใบหน้าซ้าย และตามร่างกาย น่าจะเกิดจากตอนที่ถูกครูดไปตามพื้นถนน นอกจากนี้ยังพบเลือดออกบริเวณนัยน์ตาอีกด้วย
ร.ต.ท.จิตต์เกษม ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุรถของคู่กรณีขับมาปาดหน้าอย่างกระชั้นชิด จนเกิดการเฉี่ยวชน แต่คู่กรณีไม่หยุดรถลงมาเจรจาและขับรถต่อไป กระทั่งมาถึงบริเวณหน้าด่านเก็บเงินก็ได้พยายามขับรถมาขวางเพื่อให้หยุดลงมาเจรจาแต่ไม่ทัน จึงวิ่งลงมาโบกรถ แต่ถูกคู่กรณีขับรถพุ่งชน พร้อมยืนยันไม่มีอาวุธปืน เนื่องจากไม่เคยซื้อปืนหรือพกปืนขณะปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เบื้องต้นว่า ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อกับคนขับรถ BMW คือ พยายามฆ่า /ขับรถประมาทหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น / ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น / ขับรถในทางทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วหลบหนีไป ไม่หยุดช่วยเหลือแจ้งเหตุแสดงตนแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทราบทันที เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ขณะที่นายเอกราช ที่ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจก่อนหน้านี้ อ้างว่า วันเกิดเหตุได้เดินทางไปทำบุญที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และใช้ถนนกาญจนาภิเษกกลับบ้าน จนขับรถมาเจอรถยนต์ของ ร.ต.ท.จิตต์เกษม ในลักษณะขับแช่อยู่เลนขวาตลอด จึงรอเวลาอยู่ประมาณ 10 วินาทีเพื่อจะแซง ยืนยันว่าไม่ได้กระพริบไฟหรือบีบแตรใส่แต่อย่างใด  จากนั้นก็เบี่ยงแซงซ้ายทิ้งระยะห่างหลาย 10 เมตร เพื่อเข้ามาอยู่เลนขวาตามปกติไม่ได้ปาดหน้า แต่รถของ ร.ต.ท.จิตต์เกษม ก็เร่งความเร็วแซงขึ้นไปแล้วปาดหน้าและเบรก จึงเบรกตาม แต่คู่กรณีก็ขับช้าอยู่ และพยายามจะแซงอีกครั้ง แต่รถของตำรวจก็ขับส่ายไปมา จึงขับรถหนีแต่รถคู่กรณีก็ขับตามมาแล้วโบกมือให้จอดรถ และคล้ายว่าถือของบางอย่างในมือ แต่ก็ไม่ได้จอดรถ  พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ขับรถเข้าช่องอีซีพาส ส่วนคู่กรณีเข้าช่องปกติแต่ชนกรวยที่ตั้งไว้ก่อนถึงหน้าด่านเก็บเงิน พอไม้กันในช่องอีซี่พาร์ทเปิดจึงเหยียบคันเร่งออก แต่คู่กรณีก็กระโดดเข้ามาพอดี และตกใจจึงขับรถกลับบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี
หลังจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อจำลองเหตุการณ์ พร้อมกับพนักงานสอบสวน นำไปประกอบในสำนวนคดี พร้อมยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0