พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การบริหารจัดการการจราจรระหว่างที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเยือนประเทศไทยในวันที่ 20-23 พฤศจิกายนนี้ การจราจรจะปิดในเส้นทางที่พระองค์เสด็จฯผ่านเท่านั้น โดยจะใช้หลักการปิดช้าและเปิดเร็ว ซึ่งจะใช้เส้นทางโทลล์เวย์ เชื่อมต่อทางด่วนไปลงพระราม 4 จากนั้นจะเบี่ยงซ้ายเข้าถนนสาทร เพื่อเข้าที่พักแรม สถานทูตนครรัฐวาติกัน ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ใช้ไป-กลับ โดยในวันที่ 20 พฤศจิกายน ช่วงเวลา 12.00-13.00 น. และในวันกลับ คือวันที่ 23 พฤศจิกายน ช่วงเวลา 08.00-09.00 น. ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
สำหรับเส้นทางในกรุงเทพฯ ที่สมเด็จพระสันตะปาปา เดินทางไปมีทั้งหมด 7 ที่หมาย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ได้แก่ ทำเนียบรัฐบาล โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ พระที่นั่งอัมพรสถาน วัดราชบพิตร สนามศุภชลาศัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาสนวิหาร อัสสัมชัญ ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง จึงขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายกิจการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามในขบวนจะมีการดูแลรักษาความปลอดภัยโดยใช้กำลังของกองบังคับการควบคุมฝูงชนและอารักษ์ขาและตำรวจสันติบาล
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน มีการซักซ้อมการรักษาความปลอดภัย ซึ่งการซักซ้อมผ่านไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ยังได้ประสานการปฏิบัติงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดสำนักนายกฯ สถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน เพื่อเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือให้ประชาชนที่จะเข้ารอรับเสด็จฯให้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อความสะดวกในการสัญจร คาดว่าจะมีมากถึง 4 หมื่นคน