โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รองนายกเล็กหัวหิน เผยนาทีขึ้นตรวจ ลุงป่วยโควิดดับ เผยอุณหภูมิ มีเวลาแค่ 3 นาที

Khaosod

อัพเดต 02 เม.ย. 2563 เวลา 16.08 น. • เผยแพร่ 02 เม.ย. 2563 เวลา 16.08 น.
วัดไข้
ลุงป่วยโควิดดับ อุณหภูมิแค่ 36 องศา ผู้ป่วยไม่ยอมลง มีเวลาแค่ 3 นาที

ลุงป่วยโควิดดับ วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เผยข้อมูลไทมไลน์นาทีต้องขึ้นไปสอบสวนโรค ชายชาว จ.นราธิวาส อายุ 57 ปี ก่อนที่จะพบว่าเสียชีวิตบนรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ - สุไหงโกลก โบกี้ที่ 4 เลขที่นั่ง 28 ร่วมกับทีมควบคุมโรคสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหัวหินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลตรวจเชื้อยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายที่ 13 และเป็นการเสียชีวิตแบบเฉียบพลันนอกโรงพยาบาลในท้องที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.

โดย นายมนตรี ได้ระบุว่า “ที่จุดคัดกรองสถานีรถไฟ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เวลาประมาณ 20.00 น บริเวณชานชาลาสถานีรถไฟหัวหินได้รับแจ้งจากตำรวจรถไฟขอให้ช่วยขึ้นไปช่วยดูแลผู้ป่วย บนตู้รถไฟขาล่องใต้ ผม พยาบาลและตำรวจรถไฟ ได้ขึ้นไปบนโบกี้พบผู้ชายเป็นชาวมุสลิม ซึ่งพูดภาษายาวี ในช่วงแรก สอบสวนโรคเบื้องต้นไม่มีไข้ 36 องศา แต่อาการไม่ดีสักเท่าไหร่นัก สภาพร่างกายอ่อนแอ พูดน้อย แต่เรามีเวลาแค่ 3 นาที ผู้ป่วยไม่ยอมพักที่สถานีรถไฟหัวหิน จำเป็นจะต้องให้ผู้ป่วยเดินทางต่อไป เพราะเราไม่สามารถจะซักประวัติได้มากกว่านี้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ จุดยืนบนรถไฟ เพิ่มเติมว่า น้องพยาบาลซึ่งสวมชุด PPE ป้องกันความปลอดภัยตามหลักกระทรวงสาธารณสุขยืนอยู่ใกล้ผู้ป่วยมากที่สุดเพราะต้องคัดกรองโรค สอบประวัติ ถัดมาเป็นตำรวจรถไฟ เป็นผม และน้องกองการแพทย์เป็นลำดับสุดท้าย ต่อมากลางดึกของวันที่ 31 มีนาคม ทราบข้อมูลว่าผู้ป่วยเสียชีวิต แต่ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช้าวันที่ 1 เมษายน เวลา 09.30 น.ทราบจากผู้ว่า ในที่ประชุมว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 13 ของจังหวัด จึงตัดสินใจลุกเดินออกจากห้องประชุมทันที เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน เริ่มกักตัวที่บ้านพักทันที

ทั้งนี้จากการสอบสวนของโรงพยาบาลหัวหินเบื้องต้นนั้น ระบุว่า นายมนตรี และทีมควบคุมโรคที่ขึ้นไปคัดกรองผู้ป่วยบนขบวนรถไฟ ยังไม่เข้าข่ายของการกักตัว แต่เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้สั่งการให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันแล้ว พร้อมทั้งได้พ่นยาฆ่าเชื้อในห้องทำงานส่วนตัว ห้องนายกเทศมนตรีและบริเวณชั้นทำงานของคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหินทั้งหมดแล้ว

นายมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนแรกคิดว่าจะกักตัวเงียบๆ แต่วันนี้ข่าวออกมามากตลอดทั้งวัน เกรงว่าประชาชนจะเกิดความสับสน จึงลงข้อมูลในเฟซบุ๊กเพื่อสร้างความเข้าใจ ทั้งนี้จะเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 สัปดาห์หน้า แต่ตอนนี้กักตัวเองอยู่บ้านพัก และวัดอุณหภูมิร่างกายเช้าเย็น ตั้งแต่เมื่อวาน มีอุณหภูมิอยู่ที่ 36.5 องศาเซลเซียล ทั้งนี้ตนยังกำลังใจดีและสบายใจอยู่ ไม่ได้กังวลมาก เพราะขณะร่วมทีมสอบสวนโรค ตนใส่หน้ากากอนามัย N95 และยืนอยู่หลังตำรวจรถไฟซึ่งห่างจากผู้ป่วยกว่า 1 เมตร แต่กังวลใจในเรื่องของการจับราวบันไดขึ้นลง และที่ขอบที่นั่ง เพราะเป็นทางแคบๆ จึงจำเป็นต้องจับยึดไว้ และที่กังวลคือเรื่องของการฟุ้งกระจาย ขณะที่ผู้ป่วยพูด เพราะไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ร่วมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ไม่ได้ใส่ถุงมือขณะตรวจบัตร และตั๋วซึ่งสัมผัสโดยตรง ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟขึ้นไปบนขบวนเพียง 1 คนเท่านั้น แต่ในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่อยู่สำนักงาน ประมาณ 3-4 คน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้กักตัว 14 วันแล้วเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันทีมกู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานทับสะแก หลายหลายได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีขึ้นไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนขบวนรถไฟที่พบศพชายชาวนราธิวาส ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างระบุว่า อยากให้ทุกท่านเข้าใจการทำงานของทีมกู้ภัย หากไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้องไม่ควรพูดเสียหาย ช่วยเห็นใจคนที่ทำงานด้านนี้ ที่ต้องเสียสละเวลาเพื่อส่วนรวมตลอด ช่วยเหลือทุกเรื่อง ทั้งเจ็บป่วย จับงู รถเสีย เเมวอยู่บนหลังคา ต่างโทรหากู้ภัยทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนซึ่งรีบเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที และหลังทราบข้อมูลทุกคนที่ออกเหตุในวันดังกล่าวได้กักตัวดูอาการ 14 วันแล้วเพื่อให้ปลอดภัยกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ขณะที่ประชาชนที่ติดตามต่างเข้ามาให้กำลังใจทีมกู้ภัย และติดแฮดแทค #SAVEหน่วยกู้ภัย เพื่อให้กำลังใจด้วย

ทางด้าน นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวที่ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่แล้ว แต่กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนให้เจ้าหน้าที่ที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบทีเกิดเหตุ มีการป้องกันตนเองที่รัดกุมมากขึ้น เพราะไม่ทราบว่าผู้ที่ประสบเหตุมีการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ โดยหลังจากนี้จังหวัดจะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับป้องกันตนเองให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ใช้ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย และจะขอให้ทีมแพทย์ฉุกเฉิน เข้าพื้นที่เกิดเหตุก่อนหรือพร้อมกับทีมกู้ภัยฯด้วย และจะต้องนำส่งโรงพยาบาลเท่านั้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0