รวมโค้ชไทยลีกผลงานดีแต่โดนเชิญออก

รวมโค้ชไทยผลงานดีแต่โดนเชิญออก

เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนมันเป็นเรื่องปกติในแวดวงลูกหนัง อยู่ที่ว่าโค้ชคนนั้น จะโดนปรับเปลี่ยนด้วยข้อหาอะไร บางคนเจอข้อหาทำทีมไม่ชนะหลายนัด บางคนขัดใจเจ้าของทีมเจ้าของเงิน บางคนโดนมองว่าฝีมือไม่ถึงยกระดับทีมไม่ได้ บางคนได้ใจนักเตะแต่เข้ากับเจ้าของเงินไม่ได้

เหตุผลต่างๆมากมายที่เรามักได้ยินจนเคยชินทั้งในวงการฟุตบอลต่างประเทศและบอลบ้านเรา ผู้เขียนจึงรวบรวมกรณีการแยกทางโค้ชที่อยู่ในประเภทผลงานดี แต่ไม่ได้ไปต่อส่วนจะมีใครบ้างเชิญอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้เลย

1.โชคทวี พรหมรัตน์ (การท่าเรือ)

ชายผู้ที่เป็นประเด็นร้อนในแวดวงลูกหนังไทยในช่วงที่สถานการณ์โควิด 19 กำลังระบาด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 8  เดือนที่ผ่านมาผลงานในรั้วสิงห์เจ้าท่า โชคทวี พรหมรัตน์ ก็ไม่ได้ขี้เหร่ 20 เกม ชนะ 12 เสมอ 4 เสมอ 4 1 แชมป์เอฟเอ คัพ

เพียงแต่เมื่อเข้าสู่ปี 2020 สถานการณ์ส่อแววว่าโชคทวี จะไม่ได้ไปต่อ ตั้งแต่การที่เขาไม่มีใบฝึกสอนโปรไลเซนส์ ในการคุมทีมบอลถ้วยสโมสรเอเชีย ทีมตกรอบคัดเลือกคาบ้านต่อเซเรส เนกรอส 0-1 อดไปญี่ปุ่น, แพ้เชียงราย ยูไนเต็ด ในการแข่งขันบอลออมสิน แชมเปี้ยน คัพ 0-2 ในสภาพที่รูปเกมสู้เขาไม่ได้  แถมนักเตะก็ไม่ปลื้มกับวิธีการฝึกซ้อม จนมีข่าวลือหลุดออกมาอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายฟ้าผ่ากลางสนามแพท สเตเดี้ยมในช่วงบอลลีกหยุดแข่งขันพอดี

โชคทวี ปิดฉากชีวิตการเป็นโค้ชอาชีพกับท่าเรือ พร้อมกับสาดน้ำไหลกับผู้บริหารสิงห์เจ้าท่า ทั้งเรื่องการถูกแทรกแซงการทำงาน จัดตัวผู้เล่น อันที่จริงก่อนรับงานเจ้าตัวก็คงทราบบทบาทตัวเองอยู่แล้ว ทว่าการที่เขาออกมาพูดแทนที่จะปล่อยให้เรื่องจบไป รับเงินแล้วแยกย้าย จดจำช่วงเวลาที่ดีเอาไว้ก็พอ ก่อนที่เวลาต่อมาจะโดนทาง”มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ชี้แจงความจริงทั้งหมด

ผู้เขียนไม่รู้ว่าความจริงแล้ว ปัญหาของทีมการท่าเรือที่เกิดขึ้นจริงๆมันคืออะไร แต่การแยกทางในครั้งนี้ เรียกว่าสั่นสะเทือนไปทั่ววงการลูกหนังไทยพอสมควร

2.อรรถพล ปุษปาคม (เมืองทอง,บุรีรัมย์)

คงไม่บ่อยหนักหากจะมีใครสักคนได้คุมทีมอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมถึงบีอีซี เทโรศาสน ในชีวิตการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม เอาตัวเองไปทำงานข้างสนามได้ แม้ว่าเจ้าตัวจะจากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับเมื่อปี 2015 แต่ต้องยอมรับว่ากุนซือรายนี้มีช่วงเวลาที่น่าจดจำในฐานะโค้ชเพราะเขาคุมทีมใหญ่ได้แชมป์แล้วก็ถูกเด้งพ้นตำแหน่งเช่นกัน

เคสแรกเกิดขึ้นในตอนที่เขาใช้เวลา 6 เดือนพาเมืองทอง ยูไนเต็ดจบด้วยการเป็นแชมป์ไทยลีกปี 2009 ทว่าในระหว่างการเตรียมทีมช่วงปรีซีซั่นสโมสรผลงานไม่ดี ซึ่งมันก็มาจากการที่ตัวหลักทีมชาติไทยได้พักนานกว่าปกติ ทำให้ผู้บริหารทีมไม่อาจอดทนรอได้จึงต้องปลดแล้วไปแขวนในตำแหน่งประธานเทคนิค จากนั้นเขาโดนทาบทามให้ไปทำหน้าที่กุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขาอยู่ที่นั้น 3 ปี ทำงานกับเนวิน ชิดชอบได้ดี จนกระทั่งเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 ที่สโมสรบุกไปเสมอเอฟซี โซล 2-2 ในเกมนัดสุดท้าย ทีมเข้ารอบ 16 ทีม แต่”โค้ชแต๊ก” สิ้นสุดการทำหน้าที่โค้ชไปด้วย เพราะไปขัดคำสั่งในการจัดตัวผู้เล่นลงสนาม ที่ไม่ถูกใจเจ้าของเงิน ก่อนจะมีวาทะตามมาว่าเฮดของเฮดโค้ช ที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลไทยเมื่อ7 ปีที่แล้ว

3.เรเน่ เดอซาเยียร์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

กุนซือร่างยักษ์ชาวเบลเยียมถูกโรเบิร์ต โปรคูเลอร์ ชวนมาทำทีมในเมืองไทย หลังเขาเคยชิมลางงานในแผ่นดินเอเชียทั้งในญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ จ็อบชิ้นใหม่ของเขาคือการทำเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2010 สานงานต่อจากอรรถพล ปุษปาคม ผลงานในไทยลีกไฉไลกว่าเก่ากิเลนผยองป้องกันแชมป์มี 67 แต้ม เข้ารอบรองเอเอฟซี คัพ และจบด้วยการเป็นรองแชมป์เอฟเอ คัพ ผลงานก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่บอร์ดบริหารไม่ประทับใจกับฝีไม้ลายมือของเรเน่ จึงจัดการยกเลิกสัญญากับโค้ชรายนี้ทันที

4.ริคาร์โด โรดริเกวซ (ราชบุรี มิตรผล)

อดีตทีมงานแฟร้งค์ ไรจ์การ์ดในทีมชาติซาอุดิอาระเบีย มาก่อน จึงโดนทาบทามให้มาคุมทีมราชบุรี มิตรผล สโมสรเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองไทย เขาคนนี้แหละคือคนที่ติดตั้งสูตรสำเร็จให้ เฮแบร์ตี้ กลายเป็นนักเตะต่างชาติที่อันตรายติดลำดับต้นๆของไทย ปรับจากนักเตะที่เล่นริมเส้น ปรับไปยืนเป็นศูนย์หน้า ถล่มตาข่ายเป็นว่าเล่นจนได้รางวัลดาวซัลโวไทยลีก ริคาร์โด ใช้งานนักเตะต่างชาติและไทยได้ลงตัว จบทีมจบอันดับ 4 สูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร ทว่าก่อนจบฤดูกาลแค่ 1 นัดสโมสร ให้ข่าวว่ากุนซือขอกลับบ้าน ก่อนที่เวลาต่อมาจะมีการประกาศแยกทางกันอย่างเป็นทางการ มูลเหตุที่แท้จริงๆไม่มีใครทราบได้ แต่ลึกๆแล้วการที่เป็นโค้ชคงไม่ชอบให้มามีการแทรกแซงการทำงานในเรื่องจัดตัวแน่ๆ

5.โชเซ่ อัลเวส บอร์จีส (บีอีซี เทโรศาสน)

อดีตกุนซือเยาวชนสโมสรเซา เปาโล ของดาบิด หลุยส์ และริคาร์โด กาก้า ผู้ที่หักปากกาเซียน นำนักบอลวัยโรยและดาวรุ่งในทีมพนักงานยาสูบ เถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกปี 2004-05 ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจเลือกปักหลักตัวเองอยู่ในแดนสยาม ทั้งการทำงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, ราชประชา และบีบีซียู ก่อนจะโดนชักชวนจากโรเบิร์ต โปรคูเลอร์ ให้มาทำทีมบีอีซี เทโรศาสน กลางซีซั่น 2013 ทีมที่เวลานั้นอุดมไปด้วยแข้งดาวรุ่งมากมาย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ฯลฯ

เขาปรับแต่งทีมมังกรไฟได้ไฉไลในปี 2014 ยึดแกนหลักตัวไทย อาศัยตัวต่างชาติมาประกอบ 3-4 ตำแหน่ง จบทีมจบอันดับ 3 ในไทยลีก พ่วงด้วยแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ แต่เมื่อจบฤดูกาล บอร์จีส ไม่ได้รับการต่อสัญญา งงกันทั่ววงการ โดยบอร์ดบริหารเทโร เลือกแยกทางพร้อมเหตุผลที่ว่าต้องการพาทีมไปสู่ระดับเอเชีย นั้นเลยทำให้ตำนานชื่อบีอีซี เทโรศาสน สิ้นสุดในปีถัดมาทันที

เอ็มเร่

Xwongthong@gmail