โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รวมเทคนิคการดูแลสุขภาพน้องหมา

Petcitiz

เผยแพร่ 25 ส.ค. 2560 เวลา 01.59 น. • petcitiz.info
รวมเทคนิคการดูแลสุขภาพน้องหมา
น้องหมาถือเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว สิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ คือการที่น้องหมาต้องมีสุขภาพที่ดีนะคะ วันนี้เรารวมเทคนิคการดูแลสุขภาพของน้องหมามาเพื่อคนรักน้องหมาโดยเฉพาะ !!!

• อาหารที่น้องหมา กินก็ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน ควรให้เขาได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนทุกมื้อ โดยเลือกสูตรที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัยให้กับเขา

• เมื่อสุนัขเนื้อตัวสกปรกอันเนื่องมาจากกิจวัตรประจำวัน ควรอาบน้ำ หรือทำความสะอาดเขาทันที เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจากการเลีย

• การฉีดวัคซีนให้ตรงตามโปรแกรมนัด จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดียิ่งขึ้น

การมีสุขภาพดีย่อมเป็นลาภอันประเสริฐ ไม่ว่าจะทั้งกับคนหรือสัตว์ สำหรับวันนี้ Petcitiz จะมาแนะนำเทคนิคดีๆ ในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพน้องหมา ของเพื่อนๆ ให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา จะมีเคล็ดลับอย่างไรบ้างที่จะทำให้เขามีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย อยู่เล่นซุกซนกับเราได้นานๆ ตามมาดูกันได้เลยค่ะ

1.ให้พลังงานกับน้องหมาด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน

ไม่ใช่เฉพาะแค่ช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงเท่านั้นนะคะ ที่เราจะต้องดูแลเรื่องโภชนาการอาหารให้กับน้อง หมา แต่เราควรให้เขาได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน มีคุณค่าในทุกๆ วัน เพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกค่ะ โดยธรรมชาติแล้วสุนัขเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ (omnivores) เราจึงต้องให้อาหารที่หลากหลาย เหมาะสม และครบถ้วน ก็จะช่วยให้เขามีสุขภาพดีค่ะ ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของน้องหมาก็คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน ฯลฯ เวลาเลือกอาหารให้น้องหมาเราก็ต้องเลือกสูตรที่เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละช่วงวัย เหมาะสมกับขนาดตัวของเขา และที่สำคัญคือต้องอ่านฉลากดูสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของน้องด้วยนะคะ

2.สวมเสื้อผ้าช่วยทำให้อบอุ่น

ในบางช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องติดกันหลายวัน จนทำให้อากาศเย็นและชื้นขึ้น บอกเลยค่ะว่ามีโอกาสเสี่ยงมากที่น้องหมาทุกๆ ตัวจะเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะกับสุนัขพันธุ์เล็กอย่าง ชิวาวา แจ็ครัสเซลเทอร์เรีย มินิเจอร์ ชิสุ ปอมเมอเรเนียน ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย ฯลฯ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย หากวันไหนมีฝนตกหนัก อากาศชื้น หรือหนาวเย็น เพื่อนๆ ควรหาเสื้อผ้ามาสวมให้ความอบอุ่นกับเขา เพื่อให้ร่างกายมีอุณหภูมิคงที่ พร้อมทั้งต้องคอยดูแลการเกิดอาการป่วยในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด สุนัขที่เจ็บป่วย หรือมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่ควรปล่อยให้ไปวิ่งตากฝน เล่นน้ำฝน หรือถ้าพื้นที่ที่ให้น้องหมาอาศัยอยู่เสี่ยงต่อการโดนฝนสาด ทำให้ได้รับละอองฝน เปียกชื้น มีน้ำขัง ก็ควรจัดพื้นที่ให้อยู่ใหม่ โดยเลือกเป็นที่แห้ง สะอาด และอบอุ่นค่ะ

3.ฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนดโปรแกรม

ในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงจะปล่อยปละละเลยไม่ได้จริงๆ นะคะ การพาเขาไปฉีดวัคซีนตามโปรแกรมแบบตรงเวลา จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น ยิ่งในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก สุนัขบางตัวที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน พอได้รับเชื้อโรคมากเข้าก็อาจจะเจ็บป่วยได้ค่ะ ดังนั้น ควรพาไปฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ ในช่วงหน้าฝน ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยง่ายแล้วค่ะ

สำหรับวัคซีนหลักๆ ที่มักฉีดให้กับสุนัขในปัจจุบัน มักจะเป็นวัคซีนสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อ โรคไข้หัดสุนัข โรคพิษสุนัขบ้า โรคตับอักเสบติดต่อ โรคพาราอินฟูลเอ็นซ่า ฯลฯ ซึ่งผู้เลี้ยงน้องหมาส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า เมื่อพาไปฉีดวัคซีนตามโปรแกรมแล้ว บางตัวจะไม่ป่วยเป็นโรคนั้นอีก แต่ความจริงแล้ววัคซีนก็ไม่ได้มีความสามารถป้องกันได้ 100% เพียงแต่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ในระดับหนึ่งค่ะ หากตัวของเขากำลังอยู่ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันตก ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคได้ เพราะเชื้อโรคในปัจจุบันสามารถพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด จึงอาจยกระดับตัวเองให้มีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อเขาได้รับปริมาณเชื้อโรคที่มากจนร่างกายต่อต้านไม่ไหว ก็สามารถทำให้ป่วยได้เช่นกันค่ะ เราจึงต้องคอยดูแลโดยพาไปฉีดวัคซีนให้ตรงเวลา เพื่อให้เขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอนะคะ

4.ทำความสะอาดทุกครั้งที่เล่นเลอะเทอะ

ถ้าน้อง หมา ออกไปเล่นข้างนอกจนเนื้อตัวเปียกเลอะไปหมด เพื่อนๆ จะต้องรีบจัดการทำความสะอาดร่างกายทันทีนะคะ โดยเฉพาะอวัยวะที่เขาเลียถึงอย่าง อุ้งเท้า หาง เพราะการที่ไปเล่นน้ำฝน หรือลุยโคลนนั้น หมายความว่า เชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่กับสิ่งแวดล้อมนั้นได้แฝงตัวมากับดินโคลน และติดมากับตัวของน้องด้วย ถ้าปล่อยไว้ให้เนื้อตัวสกปรกเป็นเวลานาน เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เมื่อเขาเลียหาง หรืออุ้งเท้า เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายนะคะ นอกจากนี้แล้ว หากปล่อยให้เขาเปียกชื้น ฝุ่น ดิน และความชื้นก็อาจเกิดการหมักหมม สะสมของเชื้อโรค ทำให้น้องหมาเกิดอาการคัน ผิวหนังอักเสบ มีเชื้อรา เป็นโรคผิวหนัง และโรคปอดบวม บอกเลยค่ะว่าเราควรดูแลให้น้องตัวแห้ง และสะอาดอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่ายๆ ค่ะ

5.พาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สุนัขก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับคนเรานั่นล่ะค่ะ ต้องการออกกำลังกาย เพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรง การพาน้องหมาไปออกกำลังกายก็เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีอีกอย่างหนึ่งนะคะ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเหมาะกับการออกกำลังกายรูปแบบไหน? สำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก ให้ออกกำลังกายเบาๆ เช่น หาลูกบอลมาปาให้เขาคาบเล่น เดิน หรือวิ่งเล่นครั้งละ 10-15 นาทีก็เพียงพอแล้ว สำหรับพันธุ์ใหญ่ การออกกำลังกายก็ควรเป็น การวิ่งหรือเดินอย่างอิสระ จะช่วยทำให้มีกระดูกที่แข็งแรง ให้เล่นของเล่นฝึกทักษะ โดยการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพื่อฝึกสปริงตัว เพราะสุนัขจะใช้สะโพกเป็นแรงในการกระโดด เล่นชักเย่อ แต่ก็ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะคะ)) เพื่อฝึกความแข่งแรงของช่วงกราม การเล่นเก็บลูกบอล จานร่อน หรือ ของเล่นฝึกทักษะในด้านต่างๆ ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เหมาะกับลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมของสุนัขพันธุ์ใหญ่ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับวิธีการดูแลสุขภาพน้อง หมา เชื่อว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่มีใจรักสุนัขทุกๆ คนนะคะ แค่เพียงเราหมั่นทำอย่างนี้เป็นประจำ ดูแลเขาอย่างมีวินัย และเอาใจใส่กับพวกเขาให้มาก สุนัขอันแสนน่ารักก็จะอยู่กับเราได้นานแล้วค่ะ

เรียบเรียงโดย : น้องแมวสีเทา "น้องแมวสีเทาชื่นชอบในการเลี้ยงดูแลแมวและรักความเป็นแมวอย่างสุดหัวใจ มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสัตว์มามากกว่า 10 ปี ชอบค้นหาข้อมูลและเทคนิคการเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาแบ่งปันกับเพื่อน ๆ ต่อไป"

เรื่องต้นฉบับ:petcitiz.info

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0