จบลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึก "แดร์ คลาสซิเกอร์" และบทสรุปก็เป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่สามารถบุกไปเก็บชัยชนะเหนือ โบรุสเซีย ดอร์มุนด์ ได้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยสุดสวยของโจซัว คิมมิช ทำให้สามารถทำคะแนนฉีกห่างคู่แข่งรายนี้ออกมากขึ้นไป
ซึ่งหลังจบเกมจะมีประเด็น หรือสถิติอะไรน่าสนใจกันบ้าง ขอบสนาม ของเราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้ชมกันแล้ว
คิมมิช ฟอร์มอย่างแจ่ม
ประตูของ โจซัว คิมมิช นอกจากจะเป็นประตูที่ชิพอย่างสุดสวยเข้าไปแล้ว ยังเป็นประตูที่นำไปสู่ชัยชนะของทีมอีกด้วย นอกจากนั้นถ้าพูดถึงรายละเอียดในเกมถือว่า คิมมิช ทำงานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะหน้าที่หลักของเขานั้นก็คือเรื่องของการตัดเกม ซึ่งจากสถิติของ Opta ที่ระบุว่า 90 นาทีในสนามเจ้าตัววิ่งไปมากถึง 13.73 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังตัดบอลได้มากถึง 8 ครั้ง และตัดบอลอีก 2 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมากสำหรับแข้งวัย 25 ปี
วันที่น่าผิดหวังของ ฮาแลนด์
ที่ผ่านมานับตั้งแต่เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ย้ายมาร่วมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาแสดงฝีเท้าให้เห็นแล้วว่ายอดเยี่ยมขนาดไหนจากผลงานการยิงประตูแทบจะทุกเกมที่ลงสนาม แต่ทว่ากับศึก 'แดร์ คลาสซิเกอร์' ครั้งแรกของเขานั้นจะน่าผิดหวังไม่ใช่น้อยจากโอกาสที่น่าจะแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์อยู่หลายครั้ง
ซึ่งสถิติหลังจบเกมระบุว่าในนัดนี้ ฮาแลนด์ มีโอกาสง้างเท้ายิงมากถึง 5 ครั้ง แต่ทว่าไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย โดยแบ่งเป็นติดบล็อค 3 ครั้ง, ตรงกรอบ 1 ครั้ง และหลุดกรอบไปอีก 1 ครั้ง ซึ่งนี่อาจเป็นข้อแตกต่างในเกมที่ถ้าสมมุติเขาสามารถลั่นประตูได้อย่างน้อย 1 ประตู โฉมหน้าของเกมอาจพลิกไปอีกแบบก็เป็นได้
อัลฟอนโซ่ เดวิส ดาวเตะพลังม้า
เป็นอีกหนึ่งเกมที่เจ้าหนูวัย 19 ปี อย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส โชว์ผลงานได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก ทั้งเกมรับ และรุก คอยสอดประสาน ขึ้น-ลง แทบทั้งเกม รวมไปถึงมีจังหวะไฮไลท์ที่วิ่งไล่กวดไปตัดบอลจาก ฮาแลนด์ จากสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียประตูได้อีก เรียกได้ว่าฝีเท้าครบเครื่องทุกอย่างจริงๆ นอกจากนั้นจากสถิติระบุว่ามีจังหวะหนึ่งในเกมที่เจ้าหนู เดวิส สปีดด้วยความเร็ว 35.27 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงสุดในเกมนี้
นอกจากนั้นสถิติโดยรวมถือว่าเจ้าตัวยอดเยี่ยมมากไม่ว่าจะเป็น แย่งบอลจากคู่แข่งได้ 7 ครั้ง, เคลียร์บอล 2 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 5 ครั้ง และมีจังหวะสปรินท์มากถึง 42 ครั้ง
เสือใต้ ขยับเข้าใกล้แชมป์
ภายหลังจบเกม 'แดร์ คลาสซิเกอร์' ด้วยชัยชนะเหนือคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง ดอร์ทมุนด์ ทำให้พวกเขาฉีกห่างคู่แข่งทีมนี้ไกลเป็น 7 คะแนนเข้าให้แล้ว พร้อมเหลือการแข่งขันอีกเพียง 6 นัดเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการขยับเข้าใกล้แชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 30 และจะเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกันนับตั้งแต่ 2012-13
นอกจากนั้นนับจนถึงตอนนี้ บาเยิร์น ไร้พ่ายในลีกมา 14 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นเก็บชัยชนะได้ถึง 13 นัด และสะดุดเสมอเพียงเกมเดียวเท่านั้น (เสมอ ไลป์ซิก 0-0) โดยเกมล่าสุดที่ "เสือใต้" ต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2019 ในนัดที่บุกไปพ่าย กลัดบัค 2-1 ซึ่งนั้นคือความพ่ายแพ้เพียงนัดที่ 2 ของ ฮานซี่ ฟลิค ในศึกบุนเดสลีกา ในฐานะเทรนเนอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค อีกด้วย
แข้ง ดอร์ทมุนด์ เหมือนจะถอดใจ
ดูเหมือนว่าจากความพ่ายแพ้ในเกมนี้จะทำให้แข้งของ ดอร์ทมุนด์ บางรายจะถอดใจเรื่องการลุ้นแชมป์เสียแล้ว เพราะหลังจบเกมทั้ง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ ลูเซียง ฟาฟร์ กุนซของทีมต่างพูดออกมาเป็นนัยๆ ยกแชมป์ให้ "เสือใต้" ไปแล้ว
มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ :"เราตามหลัง 7 คะแนน สิ่งที่พวกเราต้องทำคือเก็บชัยชนะให้ได้ และหวังว่าพวกเขาจะพลาดบ้างใน 3 จาก 6 นัดที่เหลือ หากว่ามีโอกาส เราก็อยากจะฉกฉวยมันไว้"
ลูเซียง ฟาฟร์ : "90 นาทีนี้เราก็เล่นกันได้ดี แต่เราน่าจะเล่นเกมรุกได้รวดเร็วกว่านี้ รวมถึงเรื่องของความเด็ดขาด ส่วนเรื่องแชมป์นั้น คงยากแล้วแหละ เราตามหลัง 7 คะแนน และเหลือเกมให้แข่งขันอีกเพียงแค่ 6 นัด
ติดตามไลน์ขอบสนามเพิ่มเติม
