วันนี้ (31 มี.ค.) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย แถลงข่าวผลการจับกุมนายศิริ รติพรประเสริฐ อายุ 57 ปี และนายกวีพัฒน์ แสนยาเกียรติคุณ อายุ 49 ปี ในข้อหา ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก การเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย และพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยสุเทพ-ปุย บริเวณเขตป่าหมู่ 9 บ้านทุ่งโป่งใต้ ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง มีพื้นที่ป่าเสียหายมากกว่า 60 ไร่ ทั้งยังทำให้สัตว์ป่าหายากหลายชนิดตายเพราะไฟป่า
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานกว่า 1 พันนาย ระดมกำลังกันเดินทางเข้าไปดับไฟป่า รวมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำบินโปรยน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวมือเผาป่า ซึ่งจากการตรวจสอบร่องรอยการนำน้ำมัน และเศษไม้ที่ถูกนำมาก่อเป็นกองไฟ และจากการสอบสวนจนได้พยานหลักฐานแน่ชัดจึงได้ออกหมายจับนายศิริ และนายกวีพัฒน์
อย่างไรก็ดี ในการสอบปากคำผู้ต้องหา ทั้ง 2 คนให้การภาคเสธโดยอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจเผาป่าแต่จุดไฟเผาบริเวณพื้นที่ตัวเองเพื่อทำแนวกันไฟ เพราะไฟป่ากำลังลุกลามเข้ามาใกล้พื้นที่สวนลิ้นจี่ของตัวเอง จึงต้องป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้ามา
ด้านนายเจริญฤทธิ์ ยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีกับคนที่เผาป่าทุกรายหากมีพยานหลักฐานชัดเจน เพราะจังหวัดออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิดตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยคดีนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมตามข้อมูลและพยานหลักฐาน
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดนั้น ขณะนี้จุดความร้อน หรือ Hotspot ในพื้นที่ลดลงเหลือเพียง 80 กว่าจุด คาดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่จะดีขึ้น เพราะมีลมพัดเข้ามาและอากาศเริ่มยกตัว หมอกควันจึงน่าจะระบายออกไปจากพื้นที่
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ตำรวจจะเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานตามที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เพราะแต่ละพื้นที่การเข้าถึงค่อนข้างยากลำบาก ทั้งนี้เฉพาะพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ล่าสุดจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าได้แล้ว 3 ราย
ส่วนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ระบุว่า ล่าสุดสามารถควบคุมไฟที่ไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานฯ ได้แล้ว และจากการสำรวจพบมีพื้นที่เสียหายราว 2.5 พันไร่