ตำรวจกาญจนบุรี ร่วมตำรวจเมืองปทุม หิ้วตัว"ศักดิ์ ไทรโยค" มือฆ่าสาว รง.เย็บผ้าปทุมธานี หมกไร่อ้อยที่กาญจน์
หม้ายสาววัยดึกที่หายออกจากบ้านนานกว่า 15 วัน หลังหายตัว พี่ชายและญาติๆ เห็นน้องสาวหายไปเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจชี้เบาะแสแฟนหนุ่มรับเหมาก่อสร้าง บ้านอยู่เมืองกาญจน์ ต้องสงสัยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ประสานผู้การตำรวจกาญจน์ ขอกำลังลงพื้นที่ร่วมสืบสวน เดินทางไปที่บ้านเชิญตัวแฟนหนุ่มต้องสงสัยไปเค้นสอบทั้งคืนจนยอมเปิดปากรับสารภาพเป็นคนลงมาทำร้ายด้วยการด้วยการต่อยคอ 4 ครั้ง จนลูกกระเดือกแตกเสียชีวิต นำศพไปทิ้งหมกป่าอ้อย
ตำรวจทางหลวงขับรถสายตรวจผ่านเจอเจ้าของไร่อ้อยไปดูอ้อยได้กลิ่นเน่า เดินหาที่มาของกลิ่นถึงผงะแจ้งเจอศพผู้หญิงนอนตายในสภาพร่างกายเน่าเปื่อยลำตัวขาดครึ่งท่อน เนื้อเยื้อบางส่วนมีรอยกัดแทะขาดหายไปคาดถูกสุนัขรุมทึ้ง แจ้งประสานตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี ตำรวจกก.สส.ภ.จว.ฯ ร่วมกับแพทย์ และพิสูจน์หลักฐานร่วมมูลนิธิ รุดตรวจสอบ
เบื้องต้นคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนฯ ชี้จุดที่ทิ้งศพ ก่อนจะควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อดำเนินคดี ท่ามกลางเสียสาปแช่งของญาติที่จ้องจะรุมประชาทัณท์
เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 18 ส.ค.62 ร.ต.ท.จีรวัฒน์ ปลดเปลื้อง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับการประสานจากตำรวจทางหลวง 6 พนมทวน จ.กาญจนบุรี ว่าได้รับแจ้งจากเจ้าของไร่อ้อยว่า พบศพผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงเสียชีวิตในไร่ในเส้นทางเข้าวัดเมตตาธรรมโพธิ์ญาณ-ถ้ำพุหว่า หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.เมืองฯ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ค.อ.ธีรพงษ์ ฤทธิ์จรูญ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ รอง ผกก.สส.ฯ และกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
จากการตรวจสอบเส้นทางลาดยางจากปากทางเข้าวัดเมตตาธรรมโพธิ์ญาณ-วัดถ้ำพุหว้าไปยังจุดที่พบศพไปประมาณ 3 กิโลเมตร 2 ฝั่งถนนข้างทางเป็นไร่อ้อยเส้นทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านคน จุดที่พบศพอยู่ห่างจากถนนลาดยางเข้าไปดงอ้อยจากถนนใหญ่ประมาณ 500-600 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง สภาพศพร่างกายเหลือเพียงครึ่งตัวบนที่กำลังเน่าเปื่อยเส้นผมหลุดจากกะโหลกศีรษะ เนื้อเยื้อตามร่างกายแห้งจนเหลือแต่กระดูก ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ส่วนท่อนร่างขาดหายไป เสื้อผ้าและชุดชั้นใน รวมทั้งกระดูกบางส่วนกระจัดกระจายเกลื่อนไร่อ้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งการให้มูลนิธิฯ เดินหาเศษชื้นส่วนที่เหลือเพียงแต่กระดูกมารวบรวมไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหลักฐาน ก่อนจะนำศพส่งสถาบันนิเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า หญิงสาวผู้ตายรายนี้ชื่อนางดวงกมล อ่องยิ้ม อายุ 52 ปี อาศัยอยู่ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสาวหม้ายมีลูกชาย-หญิง 2 คน มีอาชีพทำงานตัดเย็บเสื้อผ้าใน รง.แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขต จ.ปทุมธารี ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีบรอนท์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ส.ค.62 ที่ผ่านมา โดยหลังผู้ตายหายไป พี่ชายของผู้ตายรวมทั้งญาติๆ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 ที่ผ่านมา
แนวทางการสืบสวนสอบสวนปากคำของพี่ชายผู้ตายและญาติๆ พ.ต.อ.พีรพงษ์ โชติกเสถียร์ ผกก. ได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวของผู้ตายไปในครั้งนี้ คือนายณรงค์ศักดิ์ หรือศักดิ์ ศรีคต อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.คมกฤต ประมนต์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี นำกำลังเข้าพื้นที่ จ กาญจนบุรี เพื่อสืบสวนติดตามเบาะแสของคนร้าย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค.62 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.พีรพงษ์ โชติกเสถียร์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้ประสานขอความร่วมมือมายัง พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค และตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.ฯ เพื่อร่วมสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขต จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วันชัย อ่อนละออ ผกก.สภ.ไทรโยค สั่งการให้ พ.ต.ต.ภาณุวัฒน์ การดี สว.สส.สภ.ไทรโยคฯ รวมทั้ง พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ฯ นำกำลังเดินทางไปที่บ้านของนายณรงค์ศักดิ์ หรือศักดิ์ ผู้ต้องสงสัยรายนี้โดยเชิญตัวไปสอบสวนปากคำที่ สภ.ไทรโยค
จนในที่สุดนายณรงค์ศักดิ์ ก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนทำร้ายนางดวงกมล จนเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้งในไร่อ้อย ซึ่งนายณรงค์ศักดิ หรือศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนกับผู้ตายเป็นแฟนกันคบหากันมานานกว่า 2 ปี ผู้ตายทำงานเย็บเสื้อผ้า ส่วนตนมีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างทั่วไป
ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและผู้ตายได้เดินทางจากจังหวัดปทุมธานี โดยขับรถยนต์เก๋งของผู้ตายมาเที่ยวที่ อ.ไทรโยคฯ พักค้างคืนที่โฮมเสตย์แห่งหนึ่งในเขต อ.ไทรโยคฯ จนกระทั่งตอนเช้าวันที่ 4 ส.ค.62 เวลาประมาณ 10 โมง ตนได้ขับรถพานางดวงกมล ผู้ตายจะไปเที่ยวต่อที่วัดถ้ำพุหว้า ระหว่างทางตนได้ขอยืมเงินผู้ตายโดยบอกจะเอาเงินไปใช้ในงานก่อสร้างโดยบอกให้ผู้ตายช่วยไปกดเงินให้ที แต่ผู้ตายไม่ยอมแถมยังถูกผู้ตายด่าว่าเสียๆ หายๆ ตนด้วยความโกธรจึงจอดรถตรงปากทางเข้าไร่อ้อย
จากนั้นใช้มือชกต่อยเข้าที่บริเวณลำคอของผู้ตาย 4 ครั้งจนผู้ตายแน่นิ่งหมดสติไป และเมื่อจับตัวจึงรู้ว่าผผุ้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงขับรถเข้าไปในไร่อ้อย จากนั้นก็อุ้มศพผู้ตายไปทิ้งในดงอ้อยแล้วขับรถหลบหนี นำรถไปติดต่อขายรถที่เต้นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมในราคา 20,000 บาท แล้วหนีกับมาที่บ้านโดยทำทีไม่มีอะไร จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุท่ามกลางสายตาญาติๆ ของผู้ตายที่โกธรแค้นส่งเสียงสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากจุดเกิดเหตุได้อย่างปลอดภัยนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
