รวบกะเทยแสบ เปิดร้านเช่ารถ เชียงใหม่ อาศัยราคาถูกจูงใจ ก่อนยึดเงินประกัน-มัดจำ ผู้เสียหายเป็นร้อย…
ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก ควบคุมตัวนายณพัชกร หรือ จรัญ ทิพย์เดช อายุ 37 ปี สาวประเภทสอง ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" มาสอบปากคำ หลังถูกจับกุมได้ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 21 กุมภาพันธ์) ซึ่ง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผู้กำกับการ สภ.ช้างเผือก ได้ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ด้วยตัวเอง โดยมีกลุ่มชมรมธุรกิจรถเช่าภาคเหนือ เดินทางขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ ชมรมธุรกิจชมรมรถเช่าภาคเหนือว่า ได้รับแจ้งจากแพทย์หญิงรายหนึ่ง ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกนายณพัชกร อ้างตัวเป็นเจ้าของร้านแพนรถเช่า ฉ้อโกงเงินค่าประกันรถ และค่ามัดจำเช่ารถ จำนวน 4,400 บาท และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ช้างเผือกแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าในจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมหลอกลวงและฉ้อโกงค่ามัดจำ และค่าเช่ารถ จากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ มาเป็นเวลากว่า 3 - 4 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2557 จนมีผู้เสียหายนับร้อยราย โดยผู้เสียหายบางรายอยู่ต่างจังหวัด หรืออยู่ต่างประเทศ จึงไม่สะดวกจะมาแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่ผู้เสียหายรายเมื่อเจรจากับผู้ต้องหาแล้วได้เงินคืนบางส่วนก็ไม่ติดใจเอาความ ทำให้นายณพัชกรได้ใจและก่อเหตุซ้ำอยู่เรื่อยๆ จนมีผู้เสียหายถูกหลอกกว่า 100 ราย และคาดว่าอาจมีจำนวนมากกว่านี้ เพราะจากการตรวจสอบมีผู้เสียหายที่ถูกนายณพัชรกรหลอกลวงอยู่ทั่วประเทศ
นายณพัชกร ผู้ต้องหา ให้การว่า ทำธุรกิจรถเช่ามานานแล้ว โดยมีคนนำรถมาฝากให้เช่าหลายคัน และติดต่อกับร้านรถเช่าอื่นๆด้วย ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับว่าหลอกลวงผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่าที่มีลูกค้ามาแจ้งความเพราะติดค้างไม่ได้โอนเงินมัดจำคืนให้ ซึ่งก็พยายามติดต่อกับลูกค้าทุกรายเพื่อทยอยคืนเงิน ไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือมีเจตนาจะหลบหนี ซึ่งบางเคสยอมรับว่าอาจคืนเงินช้าไปบ้าง
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ระบุว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะเปิดเวปไซต์ให้บริการเช่ารถ ในชื่อแพนรถเช่า ให้บริการรถเช่าแก่นักท่องเที่ยว โดยจะให้เช่ารถในราคาถูกกว่าร้านรถเช่าทั่วไปเพื่อเป็นแรงจูงใจ เช่น วันละ 500 - 700 บาท จากปกติให้เช่าวันละ 1,000 บาทขึ้นไป มีนักท่องเที่ยวหลงเชื่อติดต่อขอเช่ารถจำนวนมาก และหลังเจรจาตกลงเช่ารถกันแล้ว ผู้ต้องหาจะแจ้งให้นักท่องเที่ยวโอนเงินค่าประกันรถ และค่ามัดจำเช่ารถมาให้ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมากลับไม่มีรถให้เช่าตามที่ตกลง หรือ มีรถให้เช่า แต่เมื่อนำส่งคืนจะถูกหักเงินค่าประกัน โดยอ้างว่ารถมีรอยเฉี่ยวชน หรือ รถเสียหาย ซึ่งผู้เสียหายบางรายก็ยินยอมให้ถูกหักเงิน แต่ผู้ต้องหาจะโอนเงินคืนให้ไม่เต็มจำนวน หรือไม่โอนเงินคืนให้ตามที่ตกลงกันไว้ ที่ผ่านมาผู้เสียหายมีอยู่นับ 100 ราย ทั่วประเทศ เพราะผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงมานานกว่า 4 - 5 ปีแล้ว
เบื้องต้นได้สั่งการให้อายัดบัญชีธนาคารทั้ง 3 บัญชีของนายณพัชกรที่ให้ลูกค้าโอนเงินค่าประกัน และค่ามัดจำเช่ารถมาให้ไว้ตรวจสอบแล้ว รวมทั้งจะใช้ พ.ร.บ.ฟอกเงิน เพื่อติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชนเพิ่มเติม รวมทั้งจะขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ขณะที่รายงานการสืบสวน พบว่า จากการตรวจสอบข้อมูลสถานที่ให้เช่ารถที่แจ้งไว้ในเวปไซต์ของนายณพัชกร พบว่าเป็นเพียงบ้านพักอาศัยและมีร้านเสริมสวยเปิดอยู่ ส่วนอาคารสำนักงานที่แจ้งจดทะเบียน จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีผู้อาศัยอยู่และปัจจุบันอยู่ระหว่างประกาศขายด้วย.
