หลังจากสังคมออนไลน์โพสต์ภาพนิ่งกำแพงประตูท่าแพในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง ได้พ่นสีสเปย์ไปที่กำแพง พร้อมถ่ายคลิปเล่นกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักท่องเที่ยวทั้งสองคนไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำให้โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วเสียหายหรือเสื่อมค่า…
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมชาวจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00น. กล้องวงจรปิดจับภาพชายชาวต่างชาติ จำนวน 4 คน นำสเปรย์มาฉีดพ่นบริเวณกำแพงประตูท่าแพ ฝั่งคูเมืองด้านใน พร้อมมีการถ่ายคลิปเล่นกันอย่างสนุกสนาน
หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเชียงใหม่ต่างตำหนิพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวนักท่องเที่ยวมือบอนกลุ่มนี้มาดำเนินคดี
นายเทิดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ กล่าวว่า กำแพงประตูท่าแพ เป็นสมบัติคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ มีบทกำหนดโทษกับบุคคลที่ทำให้เสื่อมค่าเสียหาย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมให้เจ้าหน้าที่เทศบาลล้างทำความสะอาดคราบสีดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน จับ นายเฟอร์ลอง ลี อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และนางสาวบริซนี่ อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา ที่อยู่ในคลิปใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นกำแพงเมืองที่ลานประตูท่าแพ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมทั้งสองได้ที่ห้องพัก ภายในโรงแรม แมดมั้งกี้ โฮเทล ย่านถนนกำแพงดิน ซอย 2 ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 ต.ค.)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งสองคนไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำให้โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วเสียหายหรือเสื่อมค่า ตามมาตรา 32 พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ.
