เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยถึงกรณีมีการแชร์คลิปวีดีโอกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายนายจักรพงศ์ สมวิลัย อายุ 21 ปีช่างไฟฟ้าในโรงสีแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีการไปแชร์ในสื่อโซลเชียลมิเดียต่างๆ กันอย่างแพร่หลายและผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากมีการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่า สภ.เมืองกาฬสินธุ์ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 03.00 น ได้รับแจ้งเหตุ ชายถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าตลาดทุ่งนาทอง ใต้สะพานลอย ถ.ถนนถีนานนท์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือ นายจักรพงศ์ ได้รับบาดเจ็บอยู่ในระหว่างการรักษาตัวของแพทย์
“ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบถามพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกับพวกรวมจำนวน 4 ราย นั้น ได้เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จากนั้นได้เกิดการทะเลาะกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งนั่งอยู่บริเวณโต๊ะข้างๆ และได้ทำร้ายกันจนมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางร้านได้มาห้ามไว้ เมื่อกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินออกมาบริเวณหน้าสถานบันเทิง ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งมีจำนวนมากกว่า ได้รุมทำร้ายกลุ่มได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คนได้วิ่งหนีไปคนละทาง ส่วนนายจักรพงศ์นั้น ได้วิ่งหนีไปยังบริเวณตลาดและถูกตามรุมทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิป ส่วนกลุ่มเพื่อนนายจักรพงศ์อีกจำนวน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บแช่นเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน ได้ทำการตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิดและพิสูจน์ทราบบุคคลที่ปรากฏในคลิปวีดีโอดังกล่าวจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางญาติของผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ได้เข้าแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว”รองโฆษกตร.กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขอเตือนไปยังเยาวชนวัยรุ่นอย่ากระทำการด้วยความคึกคะนองใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา เพราะ ผิดกฎหมายบ้านเมือง จะส่งผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัว และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม ควรรู้จักอดทน อดกั้น ใช้การพูดคุยปรับความเข้าใจกันและหาทางออกของปัญหาอย่างสันติวิธี อีกทั้งขัดต่อกฎหมายบ้านเมืองและมีโทษตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกนาย ที่สามารถเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ในการกำหนดมาตรการ รวมถึงหาแนวทางในป้องกันอาชญากรรม โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งการออกตรวจในพื้นที่สุ่มเสี่ยง การทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดเหตุขึ้นแล้ว จะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม
