รวบแล้วทอมแสบมิจฉาชีพต่อเนื่อง หลอกร้านขายโทรศัพท์โอนเงิน คนขายไหวตัวทันเพราะจำได้ถูกแจ้งจับทันควัน

รวบแล้วทอมแสบมิจฉาชีพต่อเนื่อง หลอกร้านขายโทรศัพท์โอนเงิน คนขายไหวตัวทันเพราะจำได้ถูกแจ้งจับทันควัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ก.พ.63 ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ไพศาล วงศวัชรมงคล ผบก.ภจว.นนทบุรี,พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผบก.ภจว.นนทบุรี, พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง, พ.ต.ท.วรรณศิล พูลเดช รองผกก.ป.สภ.บางบัวทอง, พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ท้าวไทยชนะ สวป.สภ.บางบัวทอง,ร.ต.อ.วิชาญ ตันพาณิชย์ รองสวป.สภ.บางบัวทอง ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว น.ส.ศตนันท์ กุลมา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/3หมู่ที่ 4 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.63 / 2563 ลง 20 กุมภาพันธ์ 2563 ก่อเหตุหลอกโอนเงินซื้อนาฬิกาจำนวน 4 เรือน ที่ร้าน DJ TIME ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสพลัสมอลล์บางใหญ่ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จนถูกจับตัวได้ขณะกำลังก่อเหตุภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือ ห้างสรรพสินค้าแม็คแวลู่ สาขาซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ฉ้อโกง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 18.34 น. ผู้ต้องหาได้เข้าไปที่ร้าน DJ TIME ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพลัสมอล์บางใหญ่ เลือกซื้อนาฬิกา 1.นาฬิกายี่ห้อ CASIO รุ่นอีดี้ฟิกซ์ จำนวน 3 เรือน 2.นาฬิกายี่ห้อ CASIO รุ่นจีช๊อก จำนวน 1 เรือน รวมราคา 21,800 บาท ผู้ต้องหาแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระค่านาฬิกาผ่านระบบทรูวอเลต โดยผู้ต้องหาได้ปลอมสลิปโอนเงิน แล้วส่งผ่านระบบไลน์เข้าเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบนาฬิกาให้ผู้ต้องหา เมื่อผู้ต้องหาได้รับนาฬิกาได้หลบหนีไป ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนแล้ว ยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับผู้ต้องหาไว้
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 18.30 น. เหตุเกิดที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ห้างสรรพสินค้าแม๊กแวลู ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหารายนี้ได้เดินเข้าไปสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง ราคา 28,000 บาท ผู้ต้องหาได้แจ้งให้ผู้เสียหายทรัพย์ว่าจะชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาของหมายเลขบัญชีธนาคาร แล้วทำทีโอนเงินทางโทรศัพท์ให้ผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาปลอมสลิปโอนเงินแล้วส่งผ่านทางไลน์ให้ผู้เสียหายดูว่าโอนเงินแล้ว แต่เนื่องจากผู้เสียหายจำได้ว่าผู้ต้องหานี้เคยมีข่าวว่าหลอกลวงคนขับรถสาธารณะหลายครั้ง และมีการแถลงข่าวผ่านสื่อต่างๆ จึงไม่ยอมส่งมอบโทรศัพท์ให้ผู้ต้องหา พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยมีประวัติก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บางกรวย จำนวน 4 คดี, สภ.ปากเกร็ด จำนวน 4 คดี, สภ.รัตนาธิเบศร์ จำนวน 2 คดี, สภ.บางศรีเมือง จำนวน 1 คดี, สภ.บางใหญ่ จำนวน 1 คดี, สน.สามเสน จำนวน 1 คดี และล่าสุดพยายามก่อเหตุพื้นที่ สภ.บางบัวทอง จึงได้ถูกจับกุมตัวได้อีกครั้ง หลังเคยถูกจับและดำดนินคดีไปแล้ว
น.ส.ศตนันท์ กุลมา ผู้ต้องหารายนี้ กล่าวว่า ต้องการเงินไปใช้หนี้ที่เกิดจากการไปดูแลผู้หญิงที่ติดพันคนหนึ่ง ในครั้งนี้ตนยอมรับว่าเหนื่อยแล้ว ยอมจบในเรื่องนี้ด้วยการไม่ประกันตัว ไม่เสียค่าปรับ อยากติดคุกให้มันจบๆไป เคสนี้คงเป็นเคสสุดท้ายของตนเองแล้ว
ในระหว่างการสอบสวน น.ส.ศตนันท์ กุลมา ผู้ต้องหา พยายามโทรศัพท์ติดต่อทางบ้านเพื่อหาเงินมาเคลียร์กับผู้เสียหายขอจบคดี โดยมีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาชี้ตัวทอมแสบมิจฉาชีพรายนี้ด้วยกัน 6 คน
น.ส.วาสนา ทองมี 41 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาชี้ตัว กล่าวว่า เมื่อดูจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน และตนได้เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นนักจิตวิทยา บอกว่าผู้ต้องรายนี้น่าจะเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ที่ต้องไปพบไปบำบัดรักษาอาการทางจิต แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม คงต้องฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปพบนักจิตวิทยา และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้เด็ดขาด เพื่อไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้กับใครอีก
เครดิต นิวส์นนท์