23 สิงหาคม 2562 ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงผลการจับกุม นางภัทราพัฒน์หรือ "กุ้ง"รุ่งเรืองโรจน์อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”และมีหมายจับอีกหลายท้องที่ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงรวมทั้งหมด 7 หมายจับนางวัฒนา วิทยรัตน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดสุรินทร์ ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกง”และตรวจสอบพบว่ามีหมายจับข้อหาฉ้อโกง อีก 2 หมาย รวมทั้งหมด 3 หมายจับและ นางสาวปัทมาวดี หรือผอม ฤทธิ์มาก อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดสุรินทร์ ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.7 ต.กระตีบอ.กำแพงแสนจ.นครปฐม
สำหรับ พฤติการณ์ เมื่อประมาณกลางปี 2558 ถึงปีปลาย2559 นางภัทราพัฒน์ หรือ กุ้ง พร้อมพวกรวม 4 คน ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย 2 คน ว่ามีนายทุนต่างชาติต้องการซื้อที่ดินบริเวณอำเภอชะอำและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนหลายร้อยไร่โดยซื้อในราคาสูงโดยให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คน ติดต่อหาที่ดินมาขายให้กับนายทุน ซึ่งจะได้ส่วนแบ่ง 3 เปอร์เซนต์ของราคาขายที่ดิน คิดเป็นเงินหลายล้านบาทและได้หลอกผู้เสียหายทั้ง 2 คน ว่าต้องมีค่าดำเนินการในการรางวัดที่ดินและค่าดำเนินการซื้อขายโดยให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนช่วยออกค่าดำเนินการให้หลายครั้งๆละ 300,000 – 500,000 ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารหลายบัญชีของตนเองและเพื่อนร่วมแก็ง รวมความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 17 ล้านบาท
ต่อมาผู้เสียหายทั้ง 2 คน ไม่สามารถติดต่อกับนางภัทราพัฒน์ และเพื่อนร่วมแก๊งจึงมั่นใจว่าตนเองถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 บก.ป. ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ต่อมามีผู้ต้องหา 2 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ส่วน นางภัทราพัฒน์ หรือ "กุ้ง"กับ นายอลงกรณ์ตั้งเอี่ยมขจร หลบหนีศาลอาญาจึงได้อนุมัติหมายจับ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 บก.ป. ได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่านางภัทราพัฒน์ ได้ร่วมกับนางวัฒนา และนางสาวปัทมาวดี ไปก่อเหตุฉ้อโกงผู้เสียหายซึ่งเป็นคุณครูในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้วิธีการฉ้อโกงในลักษณะเดียวกันได้เงินจากการฉ้อโกงไปกว่า 3,400,000 บาท จนกระทั่งศาลจังหวัดสุรินทร์ได้อนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน
จากการตรวจสอบประวัติ นางภัทราพัฒน์มีหมายจับกุมถึง 7 หมายจับนางวัฒนา มีหมายจับกุม 3 หมายจับ และนางสาวปัทมาวดี ซึ่งเป็นน้องของนางภัทราพัฒน์ มี 1 หมายจับกระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้บริเวณลานจอดรถรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.กระตีบอ.กำแพงแสนจ.นครปฐม
โดยในชั้นจับกุมนางภัทราพัฒน์ให้การรับสารภาพ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนางวัฒนา และ นางสาวปัทมาวดี ในชั้นจับกุมให้การปฏิเสธ นำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป