โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รวบเสมียนทนาย ข้อหายิงพล.ต.ต.ดับ หลังถล่มฆ่าในศาล

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 13 พ.ย. 2562 เวลา 17.15 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

รวบแล้วเสมียนทนายมือยิงเด็ดชีพนายพลตำรวจที่ลั่นไกยิงคู่กรณีในห้องพิจารณาคดี ขณะเดินออกจากห้องพักโรงแรม สอบสวนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับอยู่ในเหตุการณ์ เหยื่อกระสุนพ้นขีดอันตรายกลับบ้านได้แล้ว 1 คน ตำรวจจัดกำลังอารักขาเข้ม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เผยกล้องวงจรปิดจับภาพนายพลปืนดุ ฉวยจังหวะ รปภ.จุดตรวจอาวุธเคารพธงชาติ ลอบนำปืนเข้าศาล อดีตภรรยานายพลคลั่งสุดเศร้าเผย “ธารินทร์” ได้รับการร้องขอจากแม่ให้มาช่วยดูคดี กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกดดันจนเครียดก่อเหตุสยอง

จากคดี พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ใช้ปืนกล็อก 22 ขนาด 40 มม. กระหน่ำยิงนางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ อายุ 61 ปี ทนายความชื่อดัง อดีต สปช. นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ในห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดจันทบุรี ขณะรอสืบพยานจำเลยคดีที่นางสุภาพรกับสามี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.ธารินทร์ กับพวกเป็นจำเลยในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ส่วน พล.ต.ต.ธารินทร์ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายความ ขอปืนตำรวจประจำศาลยิงเพื่อระงับเหตุฟุบจมเลือดไปด้วย เหยื่อกระสุนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 3 ศพ คือ พล.ต.ต.ธารินทร์ ผู้ก่อเหตุ นายบัญชา และนายวิจัย

ชนวนความขัดแย้งที่เป็นต้นเหตุเกี่ยวเนื่องกับที่ดิน 86 แปลง เนื้อที่กว่า 3,800 ไร่ ที่บ้านตาเลียว ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มูลค่าราว 300 ล้านบาท ของนายสมพล โกศลานันท์ ตกลงขายให้พระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ ในนามมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย แต่มีการผ่อนชำระไม่ครบ พล.ต.ต.ธารินทร์ ในฐานะเขย ช่วยทวงสิทธิคืนกลับกองมรดก แล้วยื่นเรื่องขอครอบครองที่ดิน เลยถูกนางสุภาพร ทายาทเจ้าของที่ดินกับนายบัญชา ยื่นฟ้องแพ่งโต้แย้งสิทธิ ก่อนที่แตกแขนงเป็นคดีฟ้องเท็จ กระทั่ง พล.ต.ต.ธารินทร์ก่อคดีสยอง ตำรวจกำลังสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ขณะที่สำนักงานศาลยุติธรรมเร่งตรวจสอบว่ามือลั่นไกนำปืนเข้ามาในศาลได้อย่างไรเพื่อหาทางป้องกัน

รวบเสมียนทนายคาโรงแรม

ความคืบหน้าการสอบสวนคดีรัวฆ่ากลางศาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 นำตัวนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายที่นำปืนของ ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจศาล ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ มาสอบปากคำที่ห้องฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองจันทบุรี หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่หน้าห้องพักโรงแรมเกษมศานติ์ จันทบุรี โดยมีทีมทนายความตามมาฟังการสอบปากคำด้วยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งมอบให้ ร.ต.อ.(หญิง) ปัญญาพร ศรีชาย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี เจ้าของคดี สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งนายธนากรให้การปฏิเสธโดยขอไปให้การในชั้นศาล

ยอมรับอยู่ในเหตุการณ์

พ.ต.อ.ณพล นามนารถ รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี ได้แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบปากคำนายธนากรให้การปฏิเสธในทุกข้อหา และขอให้การในชั้นศาล แต่ยอมรับว่าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนในเรื่องของนายธนากร จะเป็นคนแย่งปืนไปยิงเองหรือตำรวจศาลเป็นผู้ยื่นปืนให้นั้น รวมไปถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ลักลอบนำอาวุธปืนเข้าไปในศาลนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อยู่แล้ว

เหยื่อกระสุนพ้นขีดอันตรายแล้ว

ที่ห้องประชุมอาคารประชาธิปกศักดิเดช รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาล พร้อมทีมแพทย์ผู้รักษาคนเจ็บ และแพทย์นิติเวช เปิดแถลงข่าวถึงการตรวจรักษาคนเจ็บ และผลการชันสูตรศพผู้ตาย ว่านางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ อายุ 59 ปี ภรรยาทนายความบัญชาผู้ตาย ถูกยิงเข้าหน้าท้อง ขาซ้าย และฝ่าเท้าซ้าย รวม 3 นัด แพทย์ผ่าตัดช่วยเหลืออาการดีขึ้น รู้สึกตัวดี ระบบการหายใจปกติ ส่วนนายวิชัย อุดมธนภัทร อายุ 51 ปี ทนายความถูกยิงที่นิ้วก้อยขวา แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว

แพทย์เผยผลชันสูตรเบื้องต้น

ขณะที่แพทย์นิติเวชเปิดเผยผลการตรวจสอบบาดแผลบนร่างผู้เสียชีวิต พบว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ถูกยิงเข้าหน้าท้อง 2 นัด แขนซ้าย 2 นัด เข่าขวา 1 นัด และถากศีรษะ 1 นัด รวม 6 นัด นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ถูกยิงเข้าลำคอด้านซ้ายกระสุนฝังอยู่บริเวณกราม ขาหนีบซ้าย และขาขวารวม 3 นัด นายวิจัย สุขรมย์ ทนายความ ถูกยิงเข้าขมับซ้าย หน้าอก หน้าท้อง สีข้าง และข้อศอกขวา แพทย์ได้ผ่าตัดนำหัวกระสุนในศพและร่างคนเจ็บส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐานในคดี และตรวจสอบว่าแต่ละคนถูกยิงด้วยปืนชนิดใดแล้ว ส่วนศพส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา กรุงเทพฯ

จัด ตร.อารักขาเหยื่อกระสุนกับลูก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ได้ขออนุมัติออกหมายจับนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายที่ใช้ปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และติดตามจับกุมตัวได้ที่โรงแรมเกษมศานติ์ จันทบุรี จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นถึงมูลเหตุน่าจะมาจากปัญหาเรื่องที่ดิน 3,800 ไร่ มีการฟ้องร้องคดีกันไปมาอีกหลายคดี เป็นเวลานานกว่า 10 ปี ส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี สภ. เมืองจันทบุรี จัดตำรวจให้ความคุ้มครองตลอดเวลา ประกอบกับลูกสาวนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ผู้เสียชีวิต และนางสุภาภรณ์ ปรมีศณาภรณ์ ผู้บาดเจ็บ ร้องขอตำรวจให้ความคุ้มครองเนื่องจากเกิดความหวาดกลัว ได้จัดตำรวจหญิงไปให้ความคุ้มครองตามที่ร้องขอ

ทนายแจงยิบปมที่ดินมรดกเลือด

ด้านนายจรูญ วรรณกสิณานนท์ ทนายความที่ปรึกษาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของคดีที่เป็นสาเหตุการฆ่าสยองในศาลว่า เป็นคดีของตระกูลโกศลานันท์ ขายที่ดินให้พระกิตติวุฑโฒภิกขุ ในนามมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย เป็นเงิน 12 ล้านบาท เมื่อปี 2515 ต่อมาปี 2538 เจ้าของที่ดินมีศักดิ์เป็นตาของนางเขมจิรา บัญฑูรนิพิท ได้เสียชีวิตลง ในระหว่างผ่อนชำระค่าที่ดินพระกิตติวุฑโฒได้มรณภาพลง ต่อมาปี 2550 นายบุญช่วย เจริญสถาพร น้องของพระกิตติวุฑโฒ อ้างเป็นคนซื้อที่ดินทั้งหมดและได้ชำระค่าที่ดินแล้ว แต่ไม่มีสัญญาซื้อขาย ประกอบกับมีการระบุจำนวนทายาทไม่ตรงกับความจริง แม่ของนางเขมจิราเป็น 1 ในทายาท ขอให้ พล.ต.ต.ธารินทร์ อดีตสามีของนางเขมจิรา เข้ามาช่วยพิสูจน์ความจริง พบว่าการซื้อขายที่ดินไม่ถูกต้อง จึงเกิดการฟ้องร้องกันยืดเยื้อกระทั่งเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น คิดว่าน่าจะเกิดความเครียด และกดดัน พล.ต.ต.ธารินทร์ก่อเหตุขึ้น

อดีตเมียนายพลเชื่อก่อเหตุเพราะเครียด

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ญาติของ พล.ต.ต.ธารินทร์ และญาตินายวิจัย เดินทางมาติดต่อขอรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนศพของนายบัญชา ทางญาติยังไม่มารับศพ โดยศพฝั่ง พล.ต.ต.ธารินทร์ มีญาติทั้งภรรยาปัจจุบัน และอดีตภรรยา บุตรสาว และครอบครัวมารับศพ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ กล่าวด้วยความเสียใจว่า เชื่อว่าสาเหตุที่อดีตสามีลงมือก่อเหตุ เพราะถูกกดดันเกิดจากความเครียดสะสม ไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังถูกทางฝ่ายโจทก์ไปร้องเรียนจะถอดยศว่าเอาเวลาราชการมาทำคดี และเชื่อว่ามาจากความเครียดที่มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยเปลี่ยนฝ่ายไปให้การเป็นพยานของฝ่ายโจทก์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มองว่าไม่ชอบมาพากล เพราะมูลนิธิฯเป็นผู้เสียหายในกรณีฟ้องร้องเรื่องที่ดิน 3,800 ไร่ แต่เหตุใดไม่รักษาสิทธิ์ตนเองที่ผ่านมาเวลาขึ้นศาลมีการโต้เถียงกันบ่อยครั้ง ตนเลิกกับ พล.ต.ต.ธารินทร์ มา 4 ปีแล้ว รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสีย และไม่อยากให้อดีตสามีตายฟรี

นำศพทำพิธีวัดหลวงปรีชากูล

น.ส.เขมจิรากล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี เนื่องจากอีกฝ่ายแจ้งจำนวนทายาทไม่ตรงกับความเป็นจริงในช่วงที่มีการพิจารณาคดี รวมถึงฝ่ายตนได้รับหลักฐานยืนยันกรรมสิทธิ์ที่ดินมาภายหลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลคำพิพากษาได้ หาก พล.ต.ต.ธารินทร์รับรู้ อยากจะขอโทษที่ทำให้เขาต้องมาวุ่นวายกับคดีดังกล่าว แทนที่จะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายเกษียณกับครอบครัวอย่างมีความสุข ศพของ พล.ต.ต.ธารินทร์ จะนำไปประกอบพิธีกรรมที่วัดหลวงปรีชากูล อ.เมืองปราจีนบุรี

พ่อวิจัย ไม่ขอจองเวรจองกรรม

ส่วนญาติของนายวิจัยมีพ่อและครอบครัวมารับ โดยนายสาคร สุขรมย์ พ่อของนายวิจัยกล่าวด้วยความเศร้าว่า เสียใจที่ลูกชายซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องมาจบชีวิต เพราะอาชีพที่ตัวเองรักและตั้งใจทำงานมาตลอด 25 ปี อยากให้คดีนี้เป็นเรื่องสุดท้ายที่เกิดขึ้นในศาลที่พกอาวุธเข้ามาห้ำหั่นกัน พร้อมให้ทบทวนเรื่องการรักษาความปลอดภัยในศาล ยังไม่ได้คุยกับครอบครัวคนยิง หากจะมาขอโทษก็ยินดีรับ และไม่ขอจองเวรจองกรรมต่อกันอีก หลังจากนี้จะนำศพไปทำพิธีที่วัดป่ามัชฌิม–วงศ์รัตนาราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

ชี้ช่องโหว่นายพลนำปืนเข้าศาล

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องอาวุธปืนที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ลักลอบนำเข้าไปในศาลว่า จากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ จำเลยที่ 3 ในคดีได้มารอจังหวะตอนเดินเข้าศาลห่างจากจุดตรวจประมาณ 10 เมตร ในช่วงเวลา 07.45 น. เป็นการรอจังหวะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังเตรียมตัวเคารพธงชาติ เเละเมื่อได้จังหวะได้เเอบนำอาวุธเข้าไป ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจศาลหรือคอร์ท มาแชล ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกลับมารายงานก่อนมีการพิจารณากันต่อไป ได้รายงานว่าขณะนี้เดินทางถึงแล้วอยู่ระหว่างสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์และมาตรการการรักษาความปลอดภัยกับ ผอ.ประจำศาลจังหวัดจันทบุรี

ส่วนในการประชุม ก.ต. ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ก็จะมีการรายงานในที่ประชุม ก.ต.ให้ได้รับทราบ ซึ่งในวันดังกล่าวก็จะมีการรายงานผลสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลาที่ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในศาลด้วย

วางมาตรการเข้ม รปภ.ศาล

ต่อมานายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ลงนามประกาศเรื่อง “กำหนดมาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” เพื่อป้องกันเหตุร้ายในศาลยุติธรรม โดยอาศัยอำนาจตามความในระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยการรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2550 (ก.บ.ศ.) ข้อ 6 และข้อ 24 พร้อมลงนามหนังสือเวียน ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ให้เตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมถึงกำหนดบทบาทหน้าที่บุคลากรในสังกัดให้ทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆเพื่อป้องกันและขจัดเหตุร้าย โดยให้ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาล หรือ ผอ.สำนักงานประจำศาลเน้นย้ำบุคลากรในสังกัดของท่าน ถือปฏิบัติตามประกาศสำนักงานศาลยุติธรรมดังกล่าวโดยเคร่งครัด

กมธ.นัดถกความปลอดภัยในศาล

ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน กล่าวถึงเหตุยิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรีว่า เรื่องความปลอดภัยภายในศาลถือว่าสำคัญ ตนจะนัดประชุม กมธ. ในวันที่ 14 พ.ย. เพื่อพิจารณาเรื่องความปลอดภัยภายในศาล จะตรวจสอบเรื่องงบประมาณปี 2563 เรื่องงบตำรวจศาลที่ชุดแรกจะเริ่มปฏิบัติงานประมาณ 300 คน จากนั้นจะสุ่มตรวจดูเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยของศาลในทุกจังหวัด กรณีศาลจังหวัดจันทบุรีถือว่าเป็นความหละหลวมในเรื่องการดูแลความปลอดภัยมากที่สุด หากอุปกรณ์ไม่พร้อมควรค้นตัวบุคคลที่จะผ่านเข้าออก เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่จะเข้าออกภายในได้รับความปลอดภัย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0