กาญจนบุรี-ตำรวจรวบเพื่อนชายคนสนิทน้องดาว สาว ม.6 ดับ สารภาพขณะปาร์ตี้ใช้สารเสพติดก่อนมีเพศสัมพันธ์ ขณะถูกจับกุมเจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉยโดนแจ้ง 2 ข้อหา ส่วนผลชันสูตรน้องดาวร่างกายได้รับสารเสพติดประเภทเฮโรอีนโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม / คีตามีน (ยาเสียสาว) ได้รับเกินขนาดทำให้เกิดอาการชักเกร็งชักและน้ำลายฟูมปากจนเสียชีวิต
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับการพิจารณาจากศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับนายพงษ์พัฒน์ นักเพียร อายุ 22 ปี เพื่อนชายคนสนิท และเป็นผู้พบร่างอันไร้วิญญาณของน้องดาวอายุ 18 ปี นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี ที่นอนเสียชีวิตอย่างปริศนาบนโซฟาไม้หน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยนายพงษ์พัฒน์ ถูกดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ 1.ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และ 2.ข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัวนายพงษ์พัฒน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายพงษ์พัฒน์ ได้ยอมรับสารภาพว่ามีเพศสัมพันธ์กับน้องดาวจริง และระหว่างกำลังจัดปาร์ตี้ได้ใช้ยาเสพติดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุของชุดสืบสวน พบว่า นอกจากจะมียาเสพติดแล้ว ยังพบยาเสียสาวและยานอนหลับในที่เกิดเหตุด้วยเบื้องต้นมีรายงานสาเหตุการเสียชีวิตของน้องดาว ว่าผู้เสียชีวิตได้รับสารเสพติดประเภทหนึ่งเฮโรอีนโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม / คีตามีน (ยาเสียสาว) ได้รับเกินขนาดทำให้เกิดอาการชักเกร็งชัก น้ำลายฟูมปาก
โดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม และกลุ่มยานอนหลับ ซึ่งเป็นยานอนหลับมีฤทธิ์ทำให้นอนหลับเร็ว และสูญเสียความทรงจำชั่วขณะใช้ผสมน้ำหรือน้ำอัดลมส่วนสาเหตุที่เลือดไหลออกจากปากออกจมูกระบบเลือดในช่องเยื้อหุ้มปอดด้านซ้ายประมาณ 100CCมีรอยปริขนาดเล็กและมีเลือดซึมเล็กน้อยที่ยอดปอดเกิดจากการกดทับการทำCPR
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติมว่า สารเสพติดในร่างกายของน้องดาว ประเภทเฮโรอีนโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม / คีตามีน (ยาเสียสาว) นำมาจากที่ใด หากพบใครร่วมกระทำผิด ก็จะขยายผลจับกุมต่อไปส่วนกลุ่มเพื่อนที่ร่วมวงปาร์ตี้คืนวันที่ 16 มิ.ย.ก่อนน้องดาวจะกลายเป็นศพวันที่ 17 มิ.ย.ขณะนี้ยังไม่ออกหมายจับใคร เนื่องจากหลักฐานยังไม่เพียงพอ ซึ่งจะทราบผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 30 มิ.ย.ที่จะถึงนี้
