โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รมควันฆ่าตัวคาเก๋ง! สาว ป.ป.ช. ท้อง 4 เดือน สามี-ญาติสุดช็อก

Khaosod

อัพเดต 22 ม.ค. 2562 เวลา 13.53 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2562 เวลา 11.23 น.
สาวปปช.

รมควันฆ่าตัวคาเก๋ง! สาว ป.ป.ช. ท้อง 4 เดือน สามี-ญาติสุดช็อก

วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.อ.ศุภณัฐ สิงห์สุวรรณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งพบศพผู้หญิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งซึ่งจอดอยู่บนถนน บ้านคุรุสภา หมู่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงประสานแพทย์ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายเปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นป่ากระถิน พบรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียน ขน 2841 นครราชสีมา จอดอยู่กลางถนน ภายในรถพบศพผู้หญิงนั่งเสียชีวิตอยู่บนเบาะคนขับ สภาพมีเลือดไหลออกทางจมูก เบาะหลังฝั่งคนขับมีเตาปิ้งย่างสีแดง มีร่องรอยการจุดถ่านถูกเผาไหม้เกือบหมดวางอยู่ ใกล้กันยังมีตาอั้งโล่ขนาดเล็กอีกใบ ชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้าย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นพรัตน์ สหุนิล อายุ 33 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำภาค 3

 ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

อบสวนทราบชาวบ้าน ทราบว่า เห็นรถเก๋งคันนี้ขับเข้ามาจอดภายในป่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีคนอยู่ในรถหรือไม่ จนกระทั่งวันนี้ขณะกำลังจะเดินไปดูสวน พบว่ารถยังจอดอยู่ที่เดิมเมื่อเดินไปดูก็แทบช็อก เห็นผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประสานญาติผู้ตาย ทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจ.ชัยภูมิ แต่ถูกโยกย้ายให้มาประจำป.ป.ช. ภาค 3 โดยมาพักอาศัยอยู่กับพี่สาว ส่วนสามีทำงานอยู่ จ.ชัยภูมิ นอกจากนั้นยังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นที่ดินที่ผู้ตายซื้อไว้เตรียมปลูกบ้าน โดยระยะหลังเห็นมีอาการซึมเศร้า

ขณะที่ตำรวจ ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วคาดว่า น.ส.นพรัตน์ น่าจะนำท่อยางไปเสียบไว้กับท่อไอเสียรถ แล้วนำท่อยางอีกข้างลอดเข้ามาทางหน้าต่างรถยนต์ จากนั้นขึ้นไปนั่งบนรถเพื่อสูดดมควันจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต เบื้องต้นนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียด พร้อมเรียกบุคคลใกล้ชิดมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0