วันที่ 15 ต.ค. 61 นางสาวรัชนีกร ศรีรักษา และนางจันทร์หอม ศรีรักษา พร้อมด้วยเด็กหญิงอีก 2 คน บุตรสาวของนางสาวรัชนีกร เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองระยอง เพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถทัวร์ปรับอากาศ วีไอพี สายนครพนม-ระยอง
ทั้งนี้ นางสาวรัชนีกรและนางจันหอม ศรีรักษา ผู้เสียหาย ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุ (13 ต.ค.) ได้โดยสารรถทัวร์คันดังกล่าวจากสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่น เพื่อมาหาสามีที่จังหวัดระยอง เวลาประมาณ 13.00 น. แต่เนื่องจากรถทัวร์มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์จึงต้องจอดซ่อมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงออกจากสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นเวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อมาจังหวัดระยอง เมื่อมาถึงพัทยาผู้โดยสารคนอื่นลงจากรถทัวร์จนหมด เหลือตนเองกับแม่และลูกเล็กอีก 2 คน ซึ่งปลายทางอยู่ที่สถานีขนส่งจังหวัดระยองแห่งที่ 2 และรถทัวร์มาถึงจังหวัดระยองเวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 ต.ค.
ปรากฏว่าผู้ขับขี่รถทัวร์ไม่ยอมเข้าสถานีขนส่งจังหวัดระยองแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นปลายทาง แต่กลับขับรถออกนอกเส้นทางมาไกลหลายกิโลเมตร จากนั้นนางรัชนีกรจึงโทรศัพท์ติดต่อกับสามี เมื่อสามีทราบจึงให้นางสาวรัชนีกรสอบถามผู้ขับขี่ว่าเหตุใดจึงไม่ไปส่งสถานีขนส่งจังหวัดระยองแห่งที่ 2 ซึ่งผู้ขับขี่ตอบว่า ขับรถหลงทาง และให้นางสาวรัชนีกรและแม่พร้อมกับลูกเล็กอีก 2 คน ให้ลงจากรถบริเวณป่าริมทางซึ่งเป็นที่มืด แต่น่างสาวรัชนีกรไม่ยอมลง
กระทั่งมาถึงบริเวณหน้าบริษัทไออาร์พีซี ถนนสุขุมวิท ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นางสาวรัชนีกรจึงให้ผู้ขับขี่หยุดรถและพาแม่กับลูก 2 คน ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ รปภ. บริษัทไออาร์พีซี เพื่อรอสามีขับรถมารับ
นางสาวธิวาเพ็ญ สาลิกา นักวิชาการขนส่งชำนาญการสำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง กล่าวว่า ทราบชื่อคนขับรถทัวร์ คือ นายธีรวัฒน์ คำบุญมี ขณะนี้อยู่ที่จังหวัดนครพนม จึงให้มาพบเจ้าหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ หากพบว่ามีความผิดจริง ผู้ขับขี่มีโทษปรับ 5,000 บาท และพักใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน ส่วนบริษัทรถทัวร์มีโทษปรับ 50,000 บาท
ในขณะที่ นายทวีศักดิ์ ตัวแทนบริษัทรถทัวร์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เบื้องต้น จากการสอบสวนนายธีระวัฒน์ ให้การว่า ผู้โดยสารมีความประสงค์ลงจากรถเอง โดยไม่ได้ปล่อยทิ้งผู้โดยสารกลางทางอย่างที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้