อีกคันแหกโค้งเจ็บ 11
อุบัติเหตุสยอง รถตู้ชนประสานงารถพ่วงตายหมู่ 11 ศพ บาดเจ็บ 4 คน เป็นรถตู้โดยสาร ไม่ประจำทางรับชาวลาวจากกรุงเทพฯ จะไปต่อพาสปอร์ตที่ชายแดนจันทบุรี ระหว่างทางผ่าน อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ถนนกำลังก่อสร้างเบี่ยงเส้นทางเหลือ 2 เลน คาดคนขับหลับในทำให้รถเสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถพ่วงบรรทุกข้าวโพดที่วิ่งสวนทางมาอย่างจัง อีกรายรถตู้เสียหลักลื่นตกถนนทางโค้งลงเขา คนขับกับผู้โดยสารหญิงสูงวัยเจ็บระนาว 11 คน “ศักดิ์สยาม” จี้ขนส่งทางบกบังคับใช้กฎหมายตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะ ต้องเช็กลิสต์ทุกวันเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย หากรถไม่พร้อมต้องหยุดวิ่ง คนขับทำผิดกฎต้องเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนผู้โดยสารถ้าเห็นรถไม่พร้อมก็ไม่ต้องใช้บริการ พร้อมคาดโทษคนตรวจสภาพรถหากเกิดอุบัติเหตุโดนลงโทษหนัก
รถตู้หลับในซิ่งข้ามเลนชนประสานงารถพ่วงตายหมู่ 11 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ร.ต.อ.สุชาติ ก่อแก้วทอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างสระแก้วธรรมสถาน จุดวังสมบูรณ์ ว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารเสียหลักชนประสานงากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ หมู่ 1 ต.วังใหม่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนาพงษ์ รอง ผบก. ภ.จ.สระแก้ว พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปิยเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ นำกำลังตำรวจ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างธรรมสถานจุดวังสมบูรณ์ จุดวังใหม่ จุดวังน้ำเย็น และหน่วยกู้ชีพวังสมบูรณ์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นทางเบี่ยงจากถนน 4 เลน เหลือ 2 เลนให้รถวิ่งสวนทางกัน
พบรถตู้โดยสารไม่ประจำทางยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ของ หจก.นาวินทราเวล 2016 พุ่งชนประสานงากับรถบรรทุก 18 ล้อ ฮีโน่ ทะเบียน 70-1234 อุตรดิตถ์ ทะเบียนพ่วง 70-1235 อุตรดิตถ์ สภาพรถตู้พังยับเป็นเศษเหล็ก มีร่างผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ในซากรถ ส่วนใหญ่ศีรษะแตก คอหัก แขนขาหัก บางรายขาขาดเป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดรถทยอยนำออกมา มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ศพ เป็นชาย 5 ศพ หญิง 6 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่ง รพ.วังสมบูรณ์ ก่อนนำส่งต่อ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วนสภาพรถพ่วงคู่กรณีหน้ารถพังยุบ มีร่างนายสุบิน เพ็งหมู อายุ 56 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บร้องโอดโอยติดอยู่ในรถ หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดช่วยเหลือออกมานำส่ง รพ.วังสมบูรณ์
ตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ ประกอบด้วย นายสรรเสริญ สระทองขันธ์ อายุ 22 ปี คนขับ รถตู้ นางเกดสะนา สิลิพอน นางแสงเดือน แก้วอุญญาวงษ์ นางไกรศร ศรีวงใคร นางบัวเกื้อ ดวงมาลา นางสุข พันธะถาวกสา นายหัถศิลป์ สิริสัก นายขุน แก้ววงค์ ส่วนอีก 3 ศพยังไม่ทราบชื่อ ทั้งหมดเป็นชาวลาว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน เป็นชาวลาวที่โดยสารมาในรถตู้ 3 คน และนายสุบิน เพ็งหมู อายุ 56 ปี คนขับรถพ่วง สอบสวนทราบว่า รถตู้คันดังกล่าวเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง รับผู้โดยสารชาวลาวจากกรุงเทพฯ จะไปต่อพาสปอร์ตที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม (ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านแหลม) ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ใช้เส้นทางสายสระแก้ว-จันทบุรี เป็นถนน 4 เลน มีร่องกลางถนน ก่อนถึงจุดเกิดเหตุถนนปิดการจราจรฝั่งมุ่งหน้า จ.จันทบุรี เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามคลอง ต้องเบี่ยงไปใช้เส้นทางฝั่งมุ่งหน้า จ.สระแก้ว เหลือช่องจราจร 2 ช่องทางรถวิ่งสวนทางกัน พอเลยจุดทางเบี่ยงไปได้ ประมาณ 500 เมตร คาดว่าคนขับหลับในทำให้รถเสียหลักข้ามเลนพุ่งเข้าชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกข้าวโพดที่วิ่งสวนทางมาอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 4 คน
อีกราย อุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกข้างทางเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.จิรวัฒน์ กองตา สว. (สอบสวน) สภ.บ่อเกลือ จ.น่าน ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกข้างทางโค้งลงเขา ถนนสายหลักลาย-บ่อเกลือ กม.ที่ 82 ระหว่างบ้านนาปูกับบ้านสะปัน ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ นำกำลังไปตรวจสอบพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ฮอ 5369 กรุงเทพมหานคร พุ่งตกลงไปในทางลาดชันข้างทางห่างจากถนน 30 เมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คนคือ นายสกุลชัย มาเหมาะโชค คนขับ และผู้โดยสารเป็นหญิง อายุระหว่าง 32-68 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย เจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.ดงพญา นายวิสุทธิ์ ใสสะอาด หน.อช.ขุนน่าน ชุดกู้ภัยเทศบาลตำบลบ่อเกลือ ทหารพราน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพช่วยกัน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนลำเลียงส่ง รพ.บ่อเกลือ ในจำนวนนี้อาการสาหัส 4 คน ถูกนำส่งต่อ รพ.น่าน
สอบสวนทราบว่า รถตู้ขับพาผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นหญิงสูงอายุจาก อ.บ่อเกลือ มุ่งหน้าไปที่พักบ้านหยวก ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ ถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงที่หมายประมาณ 16 กม. เป็นทางโค้งลงเขายาวต่อเนื่อง มีฝนตกหนักทำให้ถนนลื่นและมีน้ำไหลผ่านถนน ประกอบกับคนขับไม่ชำนาญเส้นทางทำให้รถเกิดเสียหลักลื่นไถลพุ่งตกลงข้างทางทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงอุบัติเหตุรถตู้ชนประสานงารถพ่วงมีผู้เสียชีวิต 11 ศพที่ จ.สระแก้ว ว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นทราบว่าคนขับรถตู้หลับใน และจากการตรวจสอบข้อมูลจีพีเอสรถตู้ไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงในรายละเอียดต่อไป สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจสอบมาตรฐานรถและรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทอย่างเข้มงวดขึ้น ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด ต้องกล้าพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตในกรณีที่รถบริการสาธารณะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะเดียวกันผู้ให้บริการทั้งผู้ประกอบการและคนขับหากไม่พร้อมอย่าให้บริการ ส่วนผู้โดยสารหากเห็นว่าผู้ให้บริการไม่พร้อมก็อย่าไปใช้บริการเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากรถทุกประเภทเกิดอุบัติเหตุ สั่งการให้ ขบ.มีบทลงโทษเฉพาะข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพของรถเพื่อให้เกิดความเข้มงวดมากขึ้น
รมว.คมนาคม กล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกประเภท ไม่จำกัดแค่รถโดยสารสาธารณะหรือรถตู้เท่านั้น ที่ผ่านมาอุบัติเหตุกับรถมินิบัสก็เคยเกิดมาแล้ว ทำให้เห็นว่าหากผู้ขับขี่ ผู้ประกอบการ ผู้โดยสาร รถโดยสารสาธารณะไม่มีความพร้อม อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น ความพร้อมต้องเกิดขึ้นในทุกๆ ส่วนทั้งรถ คนขับรถ และคนโดยสาร ดังนั้น ขบ.ต้องเช็กลิสต์ความปลอดภัยรถตู้โดยสาร ต้องตรวจทุกวันไม่ใช่ตรวจแค่ช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ เมื่อตรวจแล้วต้องติดแปะโชว์ให้ผู้โดยสารได้เห็นว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจทุกด้านจาก ขบ.แล้ว หากเรื่องใดผู้โดยสารพบว่าไม่เป็นไปตามที่บอกว่าผ่านการตรวจแล้ว สามารถถ่ายรูปโพสต์ลงสื่อโซเชียลหรือร้องเรียนมาได้ ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งผู้ให้บริการ ผู้โดยสาร และ ขบ. เพื่อให้เกิดมาตรฐานการบริการของรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย ขณะนี้ ขบ.กำลังรวบรวมปัญหาต่างๆ และความคิดเห็นเกี่ยวกับรถตู้โดยสารสาธารณะอยู่ สามารถแสดงความคิดเห็นมาได้ที่เว็บไซต์ www.dlt.go.th นอกจากนี้ยังกำชับด้วยว่าหากมีผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามาและมีข้อมูลที่ครบถ้วนให้รีบดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผลการตรวจสอบขอมูลจีพีเอสรถตู้คันที่ประสบอุบัติเหตุ ล่าสุดก่อนเกิดเหตุเวลา 03.38 น. วันที่ 18 ส.ค. รถวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ไม่เหลือซาก
- จยย.ชน 2 รายสังเวย 5 ศพ ซัดกระบะดับคู่ "เทคนิค" ซ้อน 3 เสยท้ายรถทัวร์
- หนุ่มพม่าขี่จยย.แหกโค้งเจ็บเจียนตาย ไม่ยอมไปหาหมอ ห่วงหมวกกลัวหาย
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
