วันนี้ (16 ธ.ค. 62) แหล่งข่าวพนักงานสอบสวนสภ.กระนวน เปิดเผยล่าสุดตำรวจได้ขออนุมัติออกหมายจับ นายสมคิด พุ่มพวง ฉายา เดอะริปเปอร์ไทย ก่อเหตุสังหาร นางรัศมี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี แม่บ้านโรงแรมเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเอง ในหมู่บ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ 19 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งถือเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เหยื่อรายที่ 6 ของนายสมคิด
สำหรับประวัตินาย ‘สมคิด พุ่มพวง’ ได้ฉายา ‘เดอะริปเปอร์ไทย’ เป็นรายแรก เมื่อก่อคดีฆาตกรรมหมอนวดและนักร้องคาเฟ่ 5 ศพเป็นอย่างน้อย ลงมือในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี โดยเฉพาะเดือน มิ.ย.2548 เดือนเดียว ก่อเหตุถึง 4 คดี
คดีแรก นายสมคิดก่อเหตุวันที่ 30 ม.ค. 48 ฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร นักร้องคาเฟ่ ตายในสภาพถูกมัดและกดน้ำเสียชีวิตภายในห้องพัก โรงแรมใน ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยเหยื่อถูกปลดทรัพย์สินไปเกลี้ยง
ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย. ฆ่า น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณ ตายคาโรงแรมใน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งนายสมคิดบีบคอจนตายคามือ
วันที่ 11 เดือนเดียวกัน ฆ่านางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ รัดคอด้วยสายไฟ ตายในห้องพักโรงแรมชื่อดัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง
เหยื่อรายต่อมา ก่อเหตุวันที่ 18 มิ.ย. ฆ่า น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวดสาว กดน้ำตายที่โรงแรมใน อ.เมืองอุดรธานี
ก่อนจะมาปิดท้ายที่ น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ วัย 25 หมอนวดแผนโบราณ ถูกนายสมคิดลวงเข้าพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อร่วมหลับนอน ก่อนบีบคอจนขาดใจตาย แล้วปลดทรัพย์สินหลบหนีไป ในวันที่ 21 ของเดือนนั้น ก่อนที่นายสมคิดจะจนมุมตำรวจกองปราบในตอนหลัง
หลังถูกจับกุม ‘สมคิด พุ่มพวง’ ยอมเปิดปากสารภาพว่า ลงมือสังหารเหยื่อทั้งหมดจริง อ้างตามสูตร ว่าทำไปเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากเหยื่อจะขอค่าตัวเพิ่มหลังจากร่วมหลับนอน แต่ตำรวจไม่เชื่อคำให้การ เพราะจากการสอบพยานหลักฐาน พบว่านายสมคิดวางแผนมาเป็นอย่างดี จงใจฆ่าเหยื่อเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ กล้าก่อเหตุติดต่อกัน เพราะเห็นว่าตำรวจตามจับกุมไม่ได้ เลยย่ามใจก่อเหตุซ้ำ กระทั่งมาจนมุมในคดีฆ่า น.ส.สมปอง เหยื่อรายสุดท้าย โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ ขณะพาเหยื่อเดินเข้าโรงแรมแล้วบีบคอฆ่าจนตาย
คดีของนายสมคิด พนักงานสอบสวนแยกฟ้องแบบต่างกรรม ต่างวาระ เพราะก่อเหตุหลายท้องที่หลายคดี แทบทุกครั้งที่ขึ้นศาล จะปฏิเสธต่อหน้าบัลลังก์ อ้างถูกกลั่นแกล้ง เพราะเคยเป็นสายคดียาเสพติดให้ตำรวจแล้วเลิกเป็น แต่ทว่าศาลพิจารณาตามพยานหลักฐาน เห็นแล้วว่านายสมคิดมีความผิดจริง จึงลงโทษตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเพิ่งพ้นโทษมาได้ 1 ปี
