ย่าวัย 51 ปี เดินสายร้องสื่อ หลานสาวพิการทางสมองวัย 13 ปี ถูกเฒ่าขายยาประจำหมู่บ้านลวงไปขังในบ้านนับชั่วโมงก่อนข่มขืน ขู่ห้ามบอกใคร ญาติทราบเรื่องแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด…
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.นางพร (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาว อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพบสื่อมวลชนในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ พร้อมเผยเรื่อวราวที่เป็นความอัดอั้นตันใจ ถึงพฤติกรรมของหมอเฒ่าวัย 86 ปี อาชีพขายยาสามัญประจำหมู่บ้านใน ต.กรุงหยัน ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.น้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หลานสาวมีอาการผิดปกติพิการทางสมองกำลังเล่นอยู่กับลูกแมวหน้าบ้าน ระหว่างที่กำลังเล่นอยู่นั้นลูกแมวเกิดวิ่งหนีเข้าไปในบ้านของนายเอก (นามสมมติ) หมอเฒ่าขายยาประจำหมู่บ้านวัย 86 ปี ที่มีบ้านติดกันหลานสาวจึงตามลูกแมวตัวนั้นเข้าไปในบ้าน
นายเอก หมอเฒ่าเห็นเด็กสาวเข้ามาในบ้าน จึงรีบเดินมาปิดประตูบ้านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขังหลานสาวไว้ภายในบ้านนานหลายชั่วโมง ก่อนจะลงมือข่มขืนหลานสาวจนสำเร็จความใคร่ กระทั่งผู้เป็นแม่ของเด็กกลับมาที่บ้านไม่พบลูกสาวจึงออกตามหา เห็นบ้านของนายเอกหมอเฒ่าปิดประตูบ้านเงียบอย่างผิดสังเกต จึงไปดักซุ่มดูอยู่ห่างๆ ที่ประตูหลังบ้าน เพราะคิดว่าลูกสาวคงจะอยู่ข้างใน จนกระทั่งรอนานร่วม 30 นาที นายเอกเปิดประตูหลังบ้านปล่อยให้ น.ส.น้ำฝนเดินออกมาพร้อมกับเงิน 300 บาท กำอยู่ในมือจากนั้นนายเอกก็รีบปิดประตูบ้านปิดเงียบเหมือนไม่มีอะไร
ผู้เป็นแม่ของ น.ส.น้ำฝน จึงเดินไปหาลูก นำตัวกลับมาที่บ้านพร้อมกับสอบเค้นหาความจริง จนเด็กยอมรับสารภาพว่า ได้ถูกนายเอกหมอเฒ่าจอมหื่น ข่มขืนถึง 3 ครั้ง หลังแม่ทราบเรื่องทั้งหมดจึงชวนย่าและญาติเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บุญเรือน ปานหนู พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับหมอเฒ่ารายนี้ถึงที่สุด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ให้ญาตินำเด็กไปตรวจภายในหาร่องรอยการถูกข่มขืน และให้แพทย์เก็บคราบอสุจิของหมอเฒ่ารายนี้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์ออกมา หากผลออกมาตรงกับพยานหลักฐาน ก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับนำตัวนายเอกหมอเฒ่าจอมหื่นรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางพร ผู้เป็นย่ายังระบายความในใจออกมาให้ฟังอีกว่า หลังนายเอกทราบว่าถูกแจ้งความดำเนินคดี พยายามติดต่อขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นโดยจะชดใช้เงินให้จำนวน 10,000 บาท แต่ทางพวกตนไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด กระทั่งมาทราบข่าวว่า หมอเฒ่าจอมหื่นรายนี้เตรียมเก็บข้าวของหลบหนีไปอยู่ที่อื่น ตนเกรงว่าเรื่องจะเงียบและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางมาร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยตีแผ่ถึงพฤติกรรมที่ชั่วรายของหมอเฒ่าจอมหื่นรายนี้ให้สังคมได้รับรู้ต่อไปว่าเป็นบุคคลอันตราย.
