สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาว“ยูเครน” หลายสิบคน โจมตีรถบัสโดยสาร 6 คันของผู้โดยสารที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีน จากความหวาดกลัวว่าจะเป็นการแพร่กระจายไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือ “โควิด-19” ในยูเครน
โดยผู้โดยสารที่เดินทางบนรถบัสคันดังกล่าวเป็นชาวยูเครน 45 คนและชาวต่างชาติอีก 27 ราย ได้โดยสารเครื่องบินกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น อันเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของไวรัส เมื่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา และกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลในเมืองปอลตาวาของยูเครน เพื่อกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน
การอพยพผู้คนดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับประชากรในเมืองราว 10,000 คนที่กลัวว่า อาจจะมีผู้ติดเชื้ออยู่ในกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มนั้นและแพร่กระจายเชื้อภายในเมือง ทำให้มีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งรวมตัวกันก่อกองไฟเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่และขว้างปาก้อนหินใส่รถบัส ซึ่งเจ้าหน้าที่ของยูเครนได้เข้าระงับความรุนแรงได้ทั้งหมด
ซึ่งต่อมากระทรวงสาธารณสุขยูเครนออกมายืนยันว่า ไม่มีผู้โดยสารจากการอพยพครั้งนี้แสดงอาการป่วย พร้อมทั้งยืนยันว่า ได้มีการใช้มาตรการอย่างเข้มงวดในการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากจีน โดยมีชาวยูเครนและชาวคาซัคสถาน 3 รายที่แสดงอาการป่วยมีไข้และไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพร้อมเที่ยวบินดังกล่าว
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้คนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และตระหนักว่า “เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์” ขณะที่นายกรัฐมนตรีโอเล็กซีย์ ฮอนชารุก รมว. กระทรวงสาธารณสุขและ รมว.กระทรวงมหาดไทยของยูเครน ยังได้เตรียมเดินทางลงพื้นที่เพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ด้วย