ยูเครนแรงต้นดีออกนำฝอยทอง 2 เม็ดตั้งแต่หัววัน แม้โดนไล่บดท้ายเกมแต่ยังประคองตัวคว้าชัยสำเร็จ ทำให้ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายยูโร 2020 อีกทีมเป็นที่เรียบร้อย
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม กลุ่มบี ยูเครนเปิดสนามเอ็นเอสเค โอลิมปิสกี รับการมาเยือนของ “ฝอยทอง”โปรตุเกส แชมป์เก่ายูโร 2016
เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง มาร์ลอส, อังเดร ยาร์โมเลนโก, โรมัน ยาเรมชุก ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนมี คริสเตียโน โรนัลโด, แบร์นาร์โด ซิลวา, กอนซาโล เกเดส เป็นตัวชูโร
เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที ยูเครนได้เตะมุมฝั่งขวา มาร์ลอส เปิดมาถึง เซอร์เก คริฟซอฟ โหม่งไปติดเซฟนายทวารกระดอนมาเข้าทาง โรมัน ยาเรมชุก ซ้ำเผาขนไม่เหลือ เจ้าถิ่นนำ 1-0
นาที 27 วิตาลี ไมโกเลนโก ลุยมาทางกราบซ้ายแล้วเปิดพุ่งไปหน้าประตูให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก วิ่งแซงแนวรับโฉบมายิงตุงตาข่าย จบครึ่งแรกยูเครนนำสบาย 2-0
ครึ่งหลังนาที 50 โปรตุเกสได้ฟรีคิกระยะอันตราย คริสเตียโน โรนัลโด สับไกพุ่งผ่านกำแพงแล้วบอลฮุกลง อังเดร เปียตอฟ ยังดักถูกเซฟไว้ได้
นาที 52 โอกาสของโปรตุเกสอีกครั้ง คริสเตียโน โรนัลโด โยกหนีกองหลังแล้วสับไกจากนอกเขตโทษพุ่งเข้าหากรอบประตู อังเดร เปียตอฟ ซูเปอร์เซฟบินปัดทิ้งทันควัน
นาที 71 บรูมา สับไกยิงแล้ว ทาราส สเตปาเนนโก สไลด์ตัวเข้ามาบล็อก แต่บอลกระดอนมาโดนแขนที่ยกขึ้นพอดี ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษโปรตุเกส พร้อมแจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่สเตปาเนนโกออกจากสนาม ยูเครนจึงต้องเหลือ 10 คน คริสเตียโน โรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด โปรตุเกสไล่มา 1-2
นาที 74 โปรตุเกสหวิดตีเสมอ จากลูกตักข้ามแนวรับเข้าเขตโทษ คริสเตียโน โรนัลโด สปีดเข้ามาตวัดยิง แต่นายทวารยังปิดมุมดีเซฟไว้ได้
นาที 90+2 ทีมเยือนตีเสมอไม่สำเร็จอีกครั้ง จากลูกเปิดทางซ้ายเข้ากลาง คริสเตียโน โรนัลโด โขกกดลงพื้นตรงกรอบแล้ว แต่นายทวารยังเซฟได้เสียอีก
นาที 90+4 โชคยังคงไม่เข้าข้างโปรตุเกส ดานิโล เปเรรา รับบอลจากเพื่อนได้แล้วสับไกนอกเขตโทษ แต่ดันแม่นเกินไปชนคานเสียอีก จบเกมยูเครนจึงชนะไปแบบหวุดหวิด 2-1
ผลอีกคู่ ลิทัวเนีย แพ้ เซอร์เบีย 1-2
สถานการณ์ล่าสุด ยูเครนเตะ 7 นัด เก็บเพิ่มเป็น 19 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่มและเข้ารอบสุดท้ายอีกทีมแน่นอนแล้ว อันดับ 2 โปรตุเกส(6 นัด 11 แต้ม) อันดับ 3 เซอร์เบีย(6 นัด 10 แต้ม) อันดับ 4 ลักเซมเบิร์ก(6 นัด 4 แต้ม) อันดับ 5 ลิทัวเนีย(7 นัด 1 แต้ม)
ด้านกลุ่มเอช “ตราไก่”ฝรั่งเศส แชมป์โลก 2018 เสมอกับ “ไก่งวง”ตุรกี 1-1 ฝรั่งเศสนำก่อนจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ นาที 76 แต่ตุรกีตีเสมอจาก ยาลซิน อายฮัน นาที 82
ผลคู่อื่น ไอซ์แลนด์ ชนะ อันดอร์รา 2-0, มอลโดวา แพ้ แอลเบเนีย 0-4
ทำให้ผ่านไป 8 นัดทุกทีม ตุรกีกับฝรั่งเศสมี 19 แต้มเท่ากัน แต่ตุรกีนำจ่าฝูงเนื่องจากเฮดทูเฮดดีกว่า อันดับ 3 ไอซ์แลนด์(15 แต้ม) อันดับ 4 แอลเบเนีย(12 แต้ม) อันดับ 5 อันดอร์รา(3 แต้ม) อันดับ 6 มอลโดวา(3 แต้ม)
กลุ่มเอ บัลแกเรียพ่ายคารังต่อ “สิงโตคำราม”อังกฤษ 0-6 ทีมเยือนได้จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด นาที 7, รอสส์ บาร์กลีย์ นาที 20 และ 32, ราฮีม สเตอร์ลิง นาที 45 และ 69, แฮร์รี เคน นาที 85
ผลอีกคู่ โคโซโว ชนะ มอนเตเนโกร 2-0
กลุ่มนี้อังกฤษนำจ่าฝูง(6 นัด 15 แต้ม) อันดับ 2 สาธารณรัฐเช็ก(6 นัด 12 แต้ม) อันดับ 3 โคโซโว(6 นัด 11 แต้ม) อันดับ 4 มอนเตเนโกร(7 นัด 3 แต้ม) อันดับ 5 บัลแกเรีย(7 นัด 3 แต้ม)
