ครั้งแรกก็อัดแน่นไปเลย 3 ประเทศใน 8 วัน ซึ่งการเดินทางของออมนัทนั้น เราจะนั่งรถข้ามประเทศกันไปเลยจ้า จากออสเตรีย สโลวาเกีย ไปจนถึงโปแลนด์ เรื่องราวระหว่างทางและการเที่ยวครั้งนี้ เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม วิถีชีวิต สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงเอกลักษณ์และความสวยงามให้เราได้มาสัมผัสกับโลกอีกฟากหนึ่งที่ไม่คุ้นตา…ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันกลับ กดชัตเตอร์ถ่ายภาพไปนับไม่ถ้วน แถมตกหลุมรักยุโรปโดยไม่รู้ตัว และสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าต้องกลับมาซ้ำอีกแน่นอน!
Day 1 : กรุงเทพฯ-เวียนนา เราถึงที่เวียนนา ประเทศออสเตรีย กันตอนเช้า ถึงปุ๊บล้างหน้าให้สดชื่นแล้วก็ออกไปเดินเล่นชมเมือง
โดยเริ่มจาก Hofburg Wien พระราชวังโฮฟบวร์ก ตั้งใจกลางกรุงเวียนนา ของตระกูล Habsburg อันยิ่งใหญ่ยาวนานถึง 640 ปี มีส่วนปีกอาคารกว่า 18 ส่วน และห้องมากกว่า 2,000 ห้อง ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลย
ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นที่พักและทำเนียบของประธานาธิบดีในออสเตรีย แต่มีบางส่วนที่ยังอนุรักษ์และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ยิ่งใหญ่ สวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ ค่า จากพระราชวังเราสามารถเดินลัดเลาะไปตามที่ต่างๆ ได้ เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมือง ย่านนี้มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย ร้านค้าต่างๆ ร้านของฝาก บาร์ ร้านอาหาร ตั้งเรียงรายยาวกว่ากิโลเมตรเลย
เดินตามถนน Graben และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองแล้ว ก็ทะลุมาอีกด้าน ตรงนี้เราจะขึ้นไปรับประทานอาหารเที่ยงด้านบนชั้น 2 กัน
อาหารที่ออสเตรียค่อนข้างถูกปากเลยค่ะ มื้อนี้อาหารลงมาที่โต๊ะเพียบ ทั้งซูชิทอด สลัด ปลาหมึกทอด ปลาแซลมอนเอย และที่สำคัญอาหารจานเด็ดที่โด่งดังต้องมากินก็คือเนื้อชุปแป้งทอดนั่นเองค่า
หลังจากอิ่มท้องเราเดินไปต่อกันที่ Vienna State Opera โรงโอเปร่าแห่งกรุงเวียนนา ที่ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 150 แล้ว เป็นโรงละครที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของโลก
ภายในแบ่งเป็นโซนที่นั่งต่างๆ เหมือนในภาพยนตร์ที่ออมนัทเคยดูเลยค่ะ กว้างมาก มีหลายชั้น และแต่ละที่นั่งด้านบนจะเป็นแบบไพรเวต ที่นั่งในส่วนของด้านบนประมาณที่นั่งละหนึ่งแสนบาทเลยทีเดียว และสามารถจุคนได้มากถึง 2,200 คน
เราใช้เวลาที่เวียนนาครึ่งวันเช้าแล้วเดินทางต่อไปที่เมืองปราติสลาวา ประเทศสโลวาเกียกันค่ะ คืนนี้พักกันที่ Vienna Easy Bratislava โรงแรมในเครือ Vienna House ที่สะอาดมาก Welcome set น่ารักสุดๆ ช่วงที่ไปเป็นช่วง Easter Day พอดี ทำให้ของในช่วงนี้ทุกอย่างจะเป็นช็อกโกแลตทรงไข่ให้รับประทานค่ะ
Day 2 : Bratislava, Slovakia Bratislava เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย วันนี้เราจะไปชม Bratislava Castle กัน ที่นี่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเลยค่ะ ถ้าไม่ได้มาที่นี่เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง ตั้งอยู่บนเนินเขาร็อกกี้ฮิลล์ ริมฝั่งแม่น้ำดานู้บ สามารถมองเห็นวิวเมืองได้รอบๆ
เราสามารถเดินเข้าชมด้านในปราสาทได้ ซึ่งที่นี่แต่เดิมเคยเป็นที่พำนักของผู้ปกครองเมือง ปัจจุบันเป็นรัฐสภา โอ่อ่า สวยงามมากเลยค่ะ
ลงมาจาก Bratislava Castle เราไปต่อกันย่าน Old Town ที่นี่เป็นประตูและป้อมปราการของเมืองเพียงแห่งเดียวที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เราจะเห็นนักท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ เพราะเมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดอีกของประเทศเขาค่ะ ภายใน Old Town มีร้านอาหารริมทางต่างๆ ร้านค้า ขายของที่ระลึก และมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เพียบ เดินเล่นทั้งวันก็ยังไม่หมดเลยค่ะ
เที่ยงนี้เรามารับประทานอาหารกลางวันกันบน UFO ค่ะ ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด ตรงนี้คือจุดชมวิวที่มีลักษณะคล้ายกับ UFO ตั้งอยู่บนเสาสะพาน SNP มีความสูง 95 ม. นอกจากจะได้ชมความงามของเมืองด้านล่างแล้ว ด้านซ้ายคือ Bratislava Castle ด้านขวาคือย่าน Old Town ที่นี่ยังเป็นร้านอาหารที่สามารถนั่งรับประทานไปชมวิวไปได้อีกด้วยค่ะ
Day 3-4 : Cracow, Poland Wawel Castle แต่เดิมเป็นที่พำนักของกษัตริย์ ภายในตัวปราสาทจะจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์หลายส่วน
บรรยากาศรอบๆ Wawel Castle ช่วงที่ไปมีดอกแมกโนเลียบานสะพรั่งเต็มไปหมด สวยงามมาก
ออมกับนัทเดินต่อไปยังย่าน Old Town ของที่นี่ เราสองคนชอบเมืองนี้มากๆ ทุกอย่างสวยไปหมด บรรยากาศ ผู้คน โรแมนติกทีเดียวเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ห้ามพลาด นั่นก็คือการนั่งรถม้าชมเมือง อารมณ์ประหนึ่งเราเป็นเจ้าหญิงแห่งดิสนีย์พร้อมราชรถ และค่ะเจ้าชายนัทนั่งข้างๆ นั่นเอง ฮ่าๆ
ส่วนด้านหลังคือ St. Mary’s Basilica โบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโปแลนด์ โบสถ์มีหอคอยอยู่ 2 หอ จะเห็นเลยว่ามีความสูงไม่เท่ากัน หอที่สูง 69 เมตร ใช้เป็นหอระฆัง และอีกหอสูง 81 เมตร ใช้เป็นหอสังเกตการณ์ ซึ่งทุกชั่วโมงเราจะได้ยินเสียงคนเป่าแตรตลอด เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต บริเวณนี้ก็มีซุ้มร้านอาหาร ร้านเบียร์เยอะแยะ เดินสำรวจเพลิดมาก แปลกตาไปหมดเลยค่ะ
เราจะนอนกันที่เมือง Cracow 2 คืน ที่ Vienna House Andel’s Cracow ในย่านใจกลางเมืองใกล้กับห้างที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และติดกับสถานีรถไฟกลางเมืองอีกด้วย สะดวก สะอาด มีบาร์ มีร้านอาหารอร่อยมากทีเดียว ชอบที่นี่มากๆ ค่ะ
ด้วยความที่เย็นนี้เรามีเวลาเหลือน้อย ก่อนพระอาทิตย์จะตกพี่แต้วก็อาสาหาของอร่อย เราจึงพากันไปตามหาเจ้าไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟพร้อมกับโคนขนมปังสไตล์โปแลนด์ และด้านในเต็มไปด้วยบราวนี่ซอสคาราเมลพร้อมช็อกโกแลต อื้อหือ…อร่อยมากกกก ติดใจอยากรับประทานอีกกันทุกคน พิกัดร้านอยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้า ใกล้โรงแรมที่พักเลยจ้า
Day 5 : Auschwitz / Tyskie Brewery ใกล้เมือง Cracow เราออกเดินทางกันแต่เช้า ทำใจให้ดีๆ เรากำลังจะเข้าสู่ค่ายกักกัน Auschwitz ในสมัยสงครามโลก ระหว่างนาซีและชาวยิวอันเลื่องชื่อ ช่างน่าเศร้าสลดที่สุด
ในวันนี้เรามาถึงแล้ว ที่ที่ผู้คนทั่วโลกอยากมาสัมผัส ค่าย Auschwitz คือค่ายกักกัน ค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซีเยอรมนี ที่ทำการระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนั้นชาวยิวทั่วยุโรปถูกหลอกว่าถ้ามาที่นี่ทุกคนจะได้มาพบกับชีวิตใหม่กับโลกใบใหม่ ซึ่งชาวยิวเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าทั้งหมดนั้นคือคำหลอกลวง หลอกชาวยิวมาใช้แรงงานอย่างโหดเหี้ยมในแบบที่มนุษย์ไม่สมควรทำกับมนุษย์ด้วยกันทุกประการ และที่เลวร้ายคือ การหลอกมาฆ่าไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและผู้หญิง ด้วยการเข้าห้องที่อัดแน่นไปด้วยแก๊ส รมแก๊สจนเสียชีวิตกว่า 50 ล้านคนเลย รายละเอียดยังมีอีกเยอะมาก เราว่าเข้ามาที่นี่ก็รับรู้ได้ถึงความเศร้า ความทรมาน และความหดหู่เหมือนกันนะ
หลังจากนั้นเราเปลี่ยนเข้าสู่โหมดสดใสกับ Tyskie Brewery ซึ่งนัทชอบมากที่สุดในทริปเลยค่ะ ทุกคน เรียกว่าดี๊ด๊าสุดเลย ที่นี่คือโรงเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม Tyskie ถือเป็น Craft Beer ยี่ห้อที่ขายดีที่สุดอีกด้วย ภายในเราก็จะได้เห็นกระบวนการผลิตเบียร์แบบสมัยก่อน ประวัติความเป็นมาต่างๆ ตั้งแต่เข้ามาคือจะได้กลิ่นข้าวเน้นๆ และสุดท้ายคือการชิมเบียร์ในรูปแบบต่างๆ Enjoy สุดๆ จ้า
ก่อนเราจะย้ายไปเมืองต่อไป คืนนี้เราพักกันที่ Vienna House Easy Katowice ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและน่ารักเหมือนเดิม ชอบ Welcome set ของทุกเมืองเลย น่ารักมากจริงๆ ค่ะ
Day 6 : Wroclaw อ่านว่า วรอตซวาฟ ค่ะ เมืองนี้มีกิมมิกที่น่าสนใจมาก คือตึกรอบๆ มีสีสันน่ารักสุดๆ
เราไปเดินเล่นโดยเริ่มจาก Old Town หรือ Main Market ที่นี่มีความกว้างขวาง ตึกสีสันคัลเลอร์ฟลู มีร้านอาหารและร้านค้า โรงแรมอยู่รายรอบ เดินเข้ามาเห็น Town Hall อยู่โดดเด่น เดินเล่นเพลินมาก มุมถ่ายรูปเพียบเลย
คืนนี้เราพักกันที่ Vienna House Andel’s Lodz ที่ตลอดการเดินทางในทริปยุโรปครั้งนี้ ถือว่าเป็นโรงแรมที่ออมและนัทตื่นเต้นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ บอกเลยว่าใหญ่มาก รอบๆตกแต่งด้วยอิฐ สวยมากที่สุดในทริปเลยค่ะ
ภายในกว้างใหญ่มากจริงๆ ล็อบบี้เอย บาร์เอย ห้องอาหารมากมาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สระว่ายน้ำที่มีสระน้ำอุ่นอยู่ด้านบนสุด สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยมากๆ และห้องนอนที่กว้าง มองเห็นวิวเมือง Lodz ได้สวยงามเต็มตาเลยทีเดียว
Day 7 : Lodz > Warsaw มาถึงเมืองสุดท้ายก่อนจะจบทริปยุโรปคือเมือง Warsaw แถมที่นี่ยังเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย มาถึงย่าน Old Town แล้วคือต้องร้องว่าสวยมากกดังๆ บรรยากศดีมากกกกก มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยย่อคือที่นี่ตั้งแต่ก่อนช่วงเกิดสงครามโลก เมืองนี้โดนระเบิด พังราบไม่เหลืออะไรเลย แต่ด้วยคนเมืองนี้ช่วยกันกอบกู้และช่วยกันสร้างเมืองกลับมาใหม่ให้เหมือนเดิมได้มากที่สุดภายในเวลาไม่กี่ปี น่านับถือจริงๆ
เมื่อเดินต่อเข้ามาด้านใน สองข้างทางจะเป็นร้านขายทั้งของกินของใช้ ของที่ระลึกเยอะแยะมาก อย่าลืมแวะรับประทานไอศกรีมที่นี่ด้วยนะ คนต่อแถวเยอะมาก ที่นี่เดินเพลิน ถ่ายรูปสนุกมากเลยค่ะ
และคืนสุดท้ายที่วอร์ซอร์ เซอร์ไพรส์สุดๆ ด้วยห้อง Studio ใหญ่มากของโรงแรม Vienna House Mokotow Warsaw ที่ตกแต่งค่อนข้างโมเดิร์น มีส่วนห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงานพร้อมด้วยห้องน้ำสะอาด และเตียงนอนนุ่มๆ นอนสบายไม่อยากตื่นเลยทีเดียว
Day 8 : Chopin Monument / Lazienki Palace Chopin Monument ก่อนขึ้นเครื่องเราไปกันที่ Lazienki Palace ตั้งอยู่ใจกลางกรุงวอร์ซอร์ พระราชวังลาเซียนกี้ เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายบริเวณล้อมรอบด้วยสวนสวยงาม มีความสงบร่มรื่น เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวมากๆ
และยังมี Lazienki Palace Chopin Monument อนุสาวรีย์ศิลปินนักเปียโนชื่อดังของโลก นั่นคือโชแปง อยู่ในท่านั่งหลับตาใต้ต้นวิลโลว์ ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติของโปแลนด์ ทั้งบริเวณรอบๆ ก็จะเงียบสงบ ผู้คนนิยมมานั่งชิลล์ นั่งรับแสงแดดอุ่น ท่ามกลางอากาศเย็นๆ และยังมีเพลงของโชแปงบรรเลงให้ฟังเพลินๆ อีกด้วยค่ะ
จบครบ 8 วันเต็ม ณ ยุโรป ดินแดนใหม่ที่ออมนัทเพิ่งมาสัมผัส ทุกอย่างดูแปลกตาและแปลกใหม่ให้ออมนัทได้ศึกษาอีกเพียบ การมา 8 วันครั้งนี้บอกเลยว่ายังไม่พอจริงๆ แต่ครั้งแรกก็ทำเอาออมนัทตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว ทั้งบรรยากาศ สถาปัตยกรรมที่ละเอียดสวยงาม ทุกอย่างใดๆ ล้วนดูโรแมนติกไปซะหมด ออมว่าต้องรีบหยอดกระปุก แล้วจะกลับมาอีกครั้งแน่นอนค่ะ..