โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ยุติอุทธรณ์คดี"โอ๊ค" ยิ่งเพิ่มมิติค้างคาใจ

new18

เผยแพร่ 30 พ.ค. 2563 เวลา 08.00 น. • new18
ยุติอุทธรณ์คดี
คดีของลูกนักการเมืองชื่อดัง ที่หลายคนยังเชื่อว่าอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวจากวงในก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่ามีนักการเมืองชื่อดังย่านฝั่งธนฯ เข้าไปประสานจัดการเรื่องนี้

ลุ้นกันมานาน หนำซ้ำอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นขอขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 6 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือศาลปราบโกงแล้ว และศาลก็อนุญาตยืดเวลาให้ถึง 25 มิถุนายน

ขณะที่อธิบดีดีเอสไอคนใหม่หมาดๆ(แต่หน้าเดิม)อย่างพ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ได้ทำหนังสือแย้งความเห็นของอัยการ เห็นสมควรให้ยื่นอุทธรณ์คดี

แต่รองอัยการสูงสุดท่านหนึ่ง ซึ่งรักษาการแทนอัยการสูงสุด กลับลงนามยุติ ไม่ยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว เท่ากับคดีนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร พ้นจากข้อกล่าวหา

ทั้งที่เป็นคดีที่ผู้คนทั่วไปให้ความสนใจ และยังขาดความกระจ่างชัด เนื่องจากองค์คณะผู้พิพากษาคดีนี้มีเพียง 2 คน และ 1 ใน 2 คนนี้ วินิจฉัยมีความผิดเห็นควรลงโทษ 4 ปี ต่างจากอีก 1 คนที่เห็นควรยกฟ้อง แต่เนื่องจากในประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญา ในมาตรา 184 บัญญัติว่า หากองค์คณะมีความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่ายหรือมากกว่า หาเสียงข้างมากไม่ได้ ให้ผู้พิพากษาที่มีความเห็นเป็นร้ายแก่จำเลยมากกว่า ให้ยอมแก่ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า

เท่ากับว่าองค์คณะผู้พิพากษาเห็นต่างกันอยู่ และ 1 ใน 2 องค์คณะ ก็เชื่อว่ามีความผิดตามฟ้อง และต้องโทษถึง 4 ปี จึงน่าจะให้มีการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้เกิดความถูกต้องยุติธรรม และผ่านการคัดกรองที่ครบถ้วนจากผู้พิพากษาในชั้นอุทธรณ์ด้วย

จึงเป็นเรื่องน่าแปลก และจะเป็นคำถามปริศนาต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นคดีของลูกนักการเมืองชื่อดัง ที่หลายคนยังเชื่อว่าอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวจากวงในก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่ามีนักการเมืองชื่อดังย่านฝั่งธนฯ เข้าไปประสานจัดการเรื่องนี้

แม้ทางอัยการสูงสุดจะส่งมอบหมายทีมโฆษกออกโรงมาแจกแจง ยืนยันความเห็นไม่ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ ผ่านการพิจารณาจากอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีแล้ว ก่อนส่งความเห็นให้อัยการสูงสุด และนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดคนที่ 1 รักษาการแทนนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ในขณะนั้น จะมีความเห็นตามไม่อุทธรณ์คดี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 63 ทำให้คดีนี้ยุติลงแล้ว แต้ก็ไม่ได้แจกแจงที่มาของคำวินิจฉัยไม่อุทธรณ์ของสำนักงานชี้ขาดคดี ทั้งที่อธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้งกลับไปตั้งแต่ 24 เมษายน 63 

รวมทั้งประเด็นสำคัญ เหตุใดคดีใหญ่ที่มีความสำคัญ และเป็นที่จับตาของผู้คนทั่งประเทศ เนื่องจากเป็นคนในตระกูลนักการเมืองชื่อดัง และเป็นลูกของอดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่รอให้อัยการสูงสุดตัวจริงเป็นผู้พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย แต่กลายเป็นรองอัยการสูงสุด ซึ่งรักษาการแทนในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น

จึงปฎิเสธไม่ได้ สำหรับคำถามและความค้างคาใจของผู้คนที่อุตส่าห์เฝ้าติดตามคดีนี้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และต่อมา คณะอัยการคดีศาลสูงมีความเห็นไม่อุทธรณ์คดี แต่ต้องรอความเห็นจากดีเอสไอก่อน ว่าจะชอบหรือเห็นแย้ง

ความจริงหากเข้าสู่ชั้นอุทธรณ์ หลังจากอุตส่าห์ขอยืดเวลาถึง 6 ครั้ง และศาลปราบโกงก็ยอมเลิ่อนเวลาให้ต่อเนื่องกันถึง 6 เดือน นอกจากความจริงจะได้กระจ่างชัดยิ่งขึ้นแล้ว ยังจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย แม้แต่ทางอัยการและผู้ถูกกล่าวหา คือนายพานทองแท้ด้วย หากศาลอุทธรณ์มีความเห็นเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น

เมื่อจบแบบห้วนๆ คำแจกแจงไม่ชัดแจ้ง ก็ต้องมีเสียงเซ็งแซ่และข้อสงสัยค้างคาใจไปอีกเนิ่นนานอย่างนี้ล่ะครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0