ค้าปลีกค้าส่ง พลิกตำราสู้เศรษฐกิจขาลง-โควิดทุบซ้ำ จับมือซัพพลายปลุกตลาด งัดสารพัดโปรโมชั่นกระตุ้นจับจ่าย ลงทุนส่งกองคาราวานไปขายสินค้าให้ถึงที่ หวังประคองยอด ชี้ทำตัวเลขได้เท่าปีที่ผ่านมาก็โอเคแล้ว
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงภาพรวมของตลาดค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในต่างจังหวัด (LMT &local modern trade) ว่า ขณะนี้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายมากขึ้น ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งก็เริ่มมีตัวเลขกระเตื้องขึ้นบ้าง เนื่องจากในแง่ของดีมานด์หรือความต้องการของผู้บริโภคยังมีอยู่ และเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมทั้งการมีเม็ดเงินจากมาตรการช่วยเหลือเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อเนื่อง 3 เดือน ในโครงการเราไม่ทิ้งกันเข้ามาในระบบ
ขณะที่ในส่วนของผู้ประกอบการและซัพพลายเออร์สินค้าต่าง ๆ ก็ร่วมกันทำกิจกรรมทางการตลาดเข้ามาเสริมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ อาทิ ลดราคา ซื้อ 1 แถม 1 ลุ้นรางวัล สร้อยคอทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจากการทำการตลาด ด้วยโปรโมชั่นทางหน้าร้านแล้ว หลาย ๆ รายยังหันมาให้ความสำคัญกับการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งมีผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย หันมาจัดกองคาราวานหรือหน่วยขายสินค้าเคลื่อนที่ออกไปขายสินค้าตามชุมชนต่าง ๆ รวมไปถึงอำเภอใกล้เคียงด้วย
นายมิลินทร์ย้ำว่า ปีนี้เป็นปีที่ค้าปลีกค้าส่งทุกรายต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่ต้นปี โดยตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นมา ตลาดค่อนข้างเงียบ เศรษฐกิจชะลอตัว คนไม่มีเงิน ประหยัด ยอดขายลดทำให้เกิดภาวะสต๊อกบวม และต้องเร่งจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้น แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น หลายรายเกิดปัญหาแคชโฟลว์หรือเงินทุนหมุนเวียนตามมา จนต้องคุยกับซัพพลายเออร์เพื่อขอผ่อนผันในเรื่องของเครดิตเทอม ซึ่งซัพพลายเออร์รายใหญ่หลาย ๆ รายก็ให้ความช่วยเหลือและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีการทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น นอกจากจะยืดเครดิตเทอมให้แล้วยังมีการทำโปรโมชั่นมาช่วย
“อย่างไรก็ตาม จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี กำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง รวมถึงผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้โรงงานต้องปิดตัวและเลิกจ้างงานเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ฯลฯ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจการค้ายังอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวไปอีกระยะหนึ่ง และในแง่ของภาพรวมปีนี้อาจจะไม่มีการเติบโต หากทำตัวเลขได้เท่ากับปีที่ผ่านมาก็ถือว่าดีแล้ว”
ขณะที่นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อค่อนข้างมาก และส่งผลกระทบกับหลาย ๆ ธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่กระทรวงการคลังช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 คนละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน หรือสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น หมวดข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม สแน็ก
“ตอนนี้ยอดขายของร้านยี่ปั๊วซาปั๊วดีดกลับขึ้นมาบ้าง และจากการสังเกตพบว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้พฤติกรรมในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยนไปโดยหันมาซื้อสินค้าจากร้านค้าใกล้บ้านมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้ภาพรวมของยี่ปั๊วซาปั๊วจะทรง ๆ ตัว”นายสมชายกล่าว
