หายหน้าหายตาไปเพราะลงคอร์สเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศนานถึง 2 เดือน สำหรับสาวยิปโซ – รมิตา ล่าสุดในงาน “the wOrld’s iconic masterpiece Of art at centralwOrld สาวยิปโซ เปิดเผยว่าเป็นการไปเรียนเทคคอร์สในระยะสั้นในเรื่องมี่ตนสนมจและตั้งใจเอาไว้ พร้อทเผยสภาพจิตใจพี่สาวยิปซี – คีรติ ที่ตอนนี้ดีขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถผ่านทุกเรื่องไปได้
ก่อนหน้านี้หายหน้าหายตาไปเรียนต่างประเทศ?
“ใชาค่ะ ไปเรียนซัมเมอร์ที่เมืองนอกประมาณ 2 เดือนค่ะ เป็นคอร์สซัมเมอร์ของฮาร์วาร์ดค่ะ เราก็เลือกเรียนว่าเราอยากเรียนเรื่องอะไร แล้วเราก็ไปจอยกับเขาอีกทีหนึ่งตามที่เราเลือกค่ะ ยิปเลือกเรียนแอนนิเมชั่นผสมสื่อค่ะ ประหลาดดีเพราะดันชนกับงานนี้พอดี ยิปเรียนเหมือนฝึกแอนนิเมชั่นผสมกับสื่อภาพนิ่ง เหมือนวิดิโอ เราเรียนเบสิกค่ะ ถามว่าทำไมถึงอยากเรียน อันนี้เราพอเห็นชื่อคอร์สเราก็สนใจแล้วค่ะ เป็นคลาสเรียนผสมสื่อ ผสมสื่อคืออะไร ปกติเวลายิปไปดูตามคอร์สที่มหาลัยที่เขามีให้ก็จะคล้ายๆกัน เรารู้สึกว่าอันนี้เป็นเรื่องใหม่ เรามาเจอคอร์สนี้เรายังไม่เคยเห็นที่อื่น เราเลยอยากไปที่นั่น อันนี้คือจบคอร์สแล้วค่ะ เป็นแค่ซัมเมอร์ค่ะ”
อยากเรียนแบบยาวๆจบคอร์สใหญ่ๆไหม?
“ถ้าจะเรียนเพราะว่ยิปเจอคอร์สที่อยากเรียนเท่านั้นค่ะ คบไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบันหรืออะไร บางทีคนคิดว่าไปเรียนที่ฮาร์วาร์ดแล้วอยากเรัยนค่อเลยไหม เอาจริงๆยิปพูดตรงๆนะว่าฮาร์วาร์ดดีมากๆเลยนะคะ เราได้รู้สึกถึงความขลังค์ที่เกิดขึ้นจากคนที่เขาตั้งใจกันจริงๆ สุดท้ายแล้วคงเป็นเรื่องคอร์สมากกว่า ถ้าเจอก็ไปค่ะ”
เราได้อเไรนอกจากการไปเรียนครั้งนี้?
“ความร้อนค่ะ ร้อนทากค่ะ ร้อนจนโกรธค่ะ รู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากกับการไปเมืองนอก เราควรจะผิวดีขึ้นหรือดูดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าร้อนตากแดดสิบวิตัวแดงเป็นกุ้งเลยค่ะ ร้อนมากจนอยากโทรคุยกับพระอาทิตย์ว่าพอก่อนค่ะ (ยิ้ม) แต่ประสบการณ์ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ได้ฝึกอยู่อีกที่หนึ่ง ก็อีกฟีลหนึ่งค่ะ”
ก่อนหน้านี้เราขึ้นชี้แจงในอินสตาแกรมว่าไปเรียนซัมเมอร์นะ?
“ใช่ค่ะ กลัวค่ะ คือเหมือนยิปเป็นคนที่ไม่รู้ว่าโรคจิตไหมว่ากลัวจะคิดว่าเราดีกว่าที่เราเป็น เหมือนเราลงไปว่าไปเรียนซัมเมอร์ บางทีคนอาจจะไม่ได้อ่าน คนดูรูปก็นึกว่าเราไปเรียนสี่ปี คนมาแสดงความยินดีเยอะมาก แม่แต่พี่ยอร์ช (หัวเราะ) จนยิปแบบ เดี๋ยวๆ เริ่มกลัวแล้ว รีบชี้แจงเลยว่าอันนี้เรียนแค่ซัมเมอร์นะ เดี๋ยวเขาคิดว่าเราเก่งมาก แต่ไม่ใช่ค่ะ ใครๆก็เรียนได้ค่ะ คือต้องสอบ แต่เป็นสอบมาตราฐานภาษา ซึ่งมาตราฐานของสถาบันนี้ไม่มั่นใจว่ามากกว่าที่อื่นหรือเปล่า แต่ว่า ณ ตอนนั้นเราทำแล้วเราผ่านเข้าไปได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ”
เป็นอย่างไรบ้างพอได้ไปไกลบ้าน?
“อันนี้ก็เป็นหนึ่งจุดประสงค์ในการจะไปนะคะ คือคุยกับป๊ามาตลอดว่าเราควรจะฝึกแยกกันอยู่บ้าง เพราะเรารักกันมาก ตัวติดกัน แล้วถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งคนใดไปก่อน เดี๋ยวตะไม่ไหว ก็เลยฝึกแยกกันอยู่ สุดท้ายคือพ่อไปส่ง เหมือนไปอยู่ด้วยแปปนึงตอนแรก พอแปปนึงเขาก็กลับ ก็มีเซอร์ไพรส์บ้างตอนหลัง ตอนที่เลือก็อยู่เองค่ะ”
โฮมซิกบ้างไหม?
“หนักค่ะ ตอนแรกไม่ทันตั้งตัวนะ ก็คิดว่าชิวแล้ว เราอยู่บ้านกับพ่อเราก็ไม่ได้คุยกันตลอดเวลา ยิปค่อนข้างเงียบนะคะเวลาอยู่บ้าน ก็รู้สึกว่าคงคล้ายๆกันแหละ คล้ายๆอยู่กันคนละชั้น แต่โอ้โห..พ่อกลับไปเท่านั้นแหละ เหมือนคนอกหักอ่ะ ยิปงงเลยนะ ตัวเองเป็นอะไรไป เหมือนเห็นแก้วกาแฟที่พ่อลืมทิ้งไว้ในตู้เย็น พอเปิดไปแล้วก็แบบทำใจดีๆ เศร้า ร้องไห้เหมือนอกหัก เปิดตู้เย็นมาเห็นแก้วกาแฟพ่อที่กินไม่หมดอ่ะ หยุดหายใจ ฮึ้บ! เป็นอะไรไม่รู้อ่ะ เป็นประมาณ 4 วันแล้วค่อยดีขึ้น ก็ร้องไห้ค่ะ พ่อก็เศร้า ต่างคนต่างเศร้า แต่เราตั้งใจจะไปซ้อมเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ได้ซ้อม”
นอกจากได้วิชาแบ้วเจอคนถูกใจบ้างไหม?
“ผู้ชายหรอคะ ยังไม่ได้เจอค่ะ ได้เพื่อนบ้างที่ติดต่อทางอีเมลล์ แต่ไม่ได้ในเลิงชู้สาวแน่นอน อยู่กันคนละประเทศน่าจะยากแล้ว หนูไม่ได้อยากจะกลับไปด้วยค่ะ”
ตอนนี้เราไม่ได้คุยกับใครเป็นพิเศษเลย?
“ไม่ๆค่ะ หนูก็อยากจะเปลี่ยนคำตอบให้พวกพี่เหมือนกัน เพราะว่ากลัวจะเบื่อและจำเจ ก็ยังไม่มีใคร และยังไม่ได้จีบกับใครอยู่”
ถามถึงยิปซีบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง?
“หนูตอบได้ไหมเนี่ย เขาก็โอเคนะคะ “
ตอนนั้นที่เกิดเรื่องเราได้อยู่กับเขาไหม?
“ตอนที่เกิดเรื่อง ตอนที่มีข่าวเยอะๆใช่ไหมคะ ตอนนั้นก็รับรู้ตลอดนะคะ รับรู้ถึงเรื่องข่าวตลอด ต่อให้เราอยู่กันคนละที่หรือเปล่าไม่มั่นใจ ตอนนั้นเราก็คุยกันทางไลน์ ก็อยู่ด้วย ตอนนี้เขาก็โอเคนะคะ ยิปรู้สึกว่าเขาเจอข่าวเจออะไรมา เขาก็มีคสามเครียดบ้าง แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วยิปเคารพเจานะ เขาผ่านอะไรมาได้อย่างค่อนข้างเข้มแข็งค่ะ”
ตอนนั้นเขามาปรึกษาหรือเฮิร์ตหนักไหม?
“มีคุยกันบ้างอยู่แล้วค่ะ ยิปมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาความรู้สึกคน ก็คงมีเศร้า มีเครียดแน่ๆอยู่แล้ว แต่ว่าวิธีการที่เจารับมือกับความเครียดของตัวเอง ยิปมองว่าจุดนั้นสำคัญ อย่างที่บอกไปสำหรับยิปนับถือเขา วิธีการที่เขาผ่านมันมา ยอมระบนะว่าเครียด ยอมรับนะว่ารู้สึก แต่ท้ายที่สุดก็คือไปข้างหน้าค่ะ”
ที่ผ่านทาเราเห็นพี่สาวเราเศร้ามากน้อยขนาดไหน?
“ถามเรื่อยๆค่ะ เหทือนเราเช็คอาการ เหมือนตรวจสุจภาพเราก็ถามเรื่อยๆค่ะ แต่ถามว่ามากน้อยขนาดไหน มันขึ้นอยู่กับคน แล้วแต่รนค่ะ บางคนอาจจะมองว่ามาก บางคนอาจจะมองว่าปกติ”
โสดทั้งพี่ทั้งน้องเลย?
“ค่ะ แต่หนูก็แสตนบายแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะคะ ถ้าเขาโสดเมื่อไหร่ก็คือโสดพร้อมกันค่ะ (ยิ้ม)
