โตโยต้า มาตามนัดปรับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.2 ลิตร ของ “ยาริส” ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียและกินนํ้ามันน้อยลง ตามเงื่อนไขอีโคคาร์ เฟส 2 พร้อมรับภาษีสรรพสามิตลดจาก 14% เหลือ 12% แต่ขยับราคาขึ้น 1-2 หมื่นบาท ชิงปาดหน้าก่อน “นิสสัน อัลเมร่า” และ “ฮอนด้า ซิตี้” ที่เตรียมเปิดตัวปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
อีโคคาร์ตัวถังซีดานถือเป็นเซ็กเมนต์ใหญ่ในกลุ่มรถยนต์นั่ง ทุกค่ายที่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนในแพ็กเกจนี้มีโปรดักต์กันครบ และสิ้นปี 2563 รถที่ทำตลาดจะต้องเป็นสเปกอีโคคาร์เฟส 2 ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเข้มงวดทั้งอัตราบริโภคนํ้ามันน้อยกว่า 4.3 ลิตรต่อ 100 กม. ปล่อยไอเสียไม่ถึง 100 กรัมต่อกม. ตลอดจนเงื่อนไขกำลังการผลิต ต้องทำได้ 1 แสนคันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป (เฟสแรก 1 แสนคันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป) เพื่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีนิติบุคคลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
สำหรับ มาสด้า 2 เข้าโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2558 ตามด้วย มิตซูบิชิ มิราจ/แอททราจ, ซูซูกิ สวิฟท์ โฉมใหม่ และปลายปีนี้เป็นคิวของ นิสสัน อัลเมร่า โฉมใหม่ ขณะที่ฮอนด้า เลิกทำตลาดบริโอ้ แล้วนำ “ซิตี้ โฉมใหม่” มาเข้าโครงการนี้แทน ส่วนโตโยต้า ยังใช้โฉมเดิมของยาริส รุ่นปัจจุบันแต่ปรับประสิทธิภาพเครื่องยนต์ใหม่ ให้ผ่านเงื่อนไขไอเสียและอัตราบริโภคนํ้ามันดังกล่าว
ในบรรดา 3 ค่ายหลังที่เริ่มทำรถในโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ประเดิมด้วยตัวถังซีดานทั้งสิ้น ส่วนขุมพลังของนิสสัน อัลเมร่า กับ ฮอนด้า ซิตี้ หันมาใช้เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ส่วนโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ยึดบล็อก 4 สูบ 1.2 ลิตร ที่ขยับมาใช้วาล์วไอดี-ไอเสียแปรผันแบบ DUAL VVT-iE (เดิมDUAL VVT-i) แรงม้าเพิ่มขึ้นจาก 86 เป็น 92 แรงม้า ปรับอัตราทดเกียร์ CVT อัตราทดเฟืองท้ายใหม่ พร้อมเพิ่มระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ขณะรถจอดหยุดนิ่ง
ต่างๆเหล่านี้เมื่อผสานกับโครงสร้างตัวถังนํ้าหนักเบา ส่งผลให้ “ยาริส เอทีฟ” ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 และปล่อย CO2 ไม่เกิน 100 กรัมต่อกม. อัตราบริโภคนํ้ามันทำได้ 23.3 กม.ต่อลิตร อยู่เหนือข้อกำหนดของรัฐบาลแบบปริ่มนํ้าพอดี
ยาริส เอทีฟ เปิดตัวครั้งแรกเดือนสิงหาคม 2560 ทำยอดขายสะสมจนถึงตุลาคม 2562 ได้ถึง 76,000 คัน ถือเป็นอีโคคาร์ซีดานขายดีที่สุดในไทย รุ่นใหม่แบ่งทำตลาดเป็น 3 รุ่นย่อย หรือลดลงจากเดิมที่มี 5 รุ่นย่อย แม้รถจะเสียภาษีสรรพสามิตตํ่าลงในสิทธิของอีโคคาร์ เฟส 2 จาก 14% เหลือ 12% ทว่าราคาขายปรับขึ้น 1-2 หมื่นบาทแล้วแต่รุ่น
ตัวท็อปของรุ่นใหม่ เกรด High ราคา 649,000 บาท หากเทียบกับตัวท็อปเดิม S+ ราคา 639,000 บาท แพงกว่ากัน 1 หมื่นบาท ภายใต้การตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเหมือนเดิม เช่น ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์รมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดง พร้อม LED Light Guiding ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home รวมถึงไฟ Daytime Running Lights แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า
กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียมรมดำ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ภายในเน้นความสปอร์ต ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังเดินด้ายสีแดง พร้อมพวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) และระบบสตาร์ตเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน(ทุกรุ่น) เบรกABS, EBD, BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, TRC และ HAC ถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง และเข่าด้านคนขับ
ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มมาคือ ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ กล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง และเปลี่ยนจอทัชสกรีนใหม่จากขนาด 7 นิ้ว เป็น 6.7 นิ้ว ที่แสดงผลพร้อมควบคุมการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ
ด้วยภาษีสรรพสามิตที่เสียลดลง 2% แต่โตโยต้าขยับขึ้น 1 หมื่นบาทในรุ่นท็อป และอีก 2 รุ่นคือ Mid ราคา 579,000 บาท ขยับขึ้น 2 หมื่นบาท (เทียบกับเกรด E) ส่วน Entry 529,000 บาท ราคาเท่าเดิม (เทียบกับเกรด J)
สำหรับโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ยังเพิ่มทางเลือกด้วย ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT ประกอบด้วย สเกิร์ตกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง(ซ้ายและขวา), สเกิร์ตกัน ชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง โดยมีจำนวนจำกัดและราคาพิเศษ 7,000 บาทและสามารถติดตั้งได้กับรถทุกรุ่นและทุกสี
นอกจาก โตโยต้า ยาริส เอทีฟ นิสสัน อัลเมร่า และฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ ที่บุกตลาดอีโคคาร์ตัวถังซีดานพร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว มิตซูบิชิยังเตรียมเปิดตัว มิราจ และแอททราจ ไมเนอร์เชนจ์ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2019 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้ อีกด้วย
ทั้งนี้ เซ็กเมนต์อีโคคาร์(ซีดานและแฮตช์แบ็ก) ในปี 2561 ทำยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2 แสนคัน จาก 6 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น รวม 13 รุ่น ครองสัดส่วน 20% จากตลาดรวม 1.04 ล้านคัน แต่สถานการณ์ 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค.- ก.ย. 62) ตลาดอีโคคาร์ ตกไปประมาณ 10%
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10 - 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
