โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ยัน"เลิกจ้าง"ไม่น่าห่วง!

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 14 พ.ย. 2562 เวลา 10.26 น.

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยืนยัน สถานการณ์เลิกจ้างยังไม่น่าห่วง สอดคล้องกับข้อมูลภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 12 พ.ย.2562 พบมีโรงงานปิด 1,391 โรงงาน เปิดกิจการใหม่ 2,889 โรงงาน โดยมีโรงงานเปิดใหม่สูงขึ้นกว่าปิดกิจการถึง 2 เท่าตัว เลิกจ้างงาน 35,533 คน จ้างงานในกิจการใหม่ 84,033 คน จ้างงานจากการขยายกิจการ 84,704 คน สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเติบโต กำลังการผลิตอยู่ในภาวะปกติ เชื่อมั่นภายใน 1-2 ปี ผลจากการที่รัฐบาลพัฒนาประเทศด้วยโครงสร้างพื้นฐาน จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องสถานการณ์เลิกจ้างและการปิดกิจการโรงงานในปัจจุบันว่า ภาพรวมในปี 2562 ตั้งแต่เดือน 1 ม.ค. – 12  พ.ย. 2562 จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรม มีโรงงานปิดกิจการ 1,391 โรงงาน ขณะเดียวกันมีโรงงานเปิดกิจการใหม่ 2,889 โรงงาน โดยมีโรงงานเปิดใหม่สูงขึ้นกว่าปิดกิจการถึง 2 เท่าตัว นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเลิกจ้างงาน 35,533 คน ขณะที่มีการจ้างงานในกิจการใหม่ 84,033 คน และจ้างงานจากการขยายกิจการ 84,704 คน โดยมีเงินลงทุนเพิ่มเติม 431,216 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วถึง 36.6 % ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเจริญเติบโต

 

ม.ร.ว.จัตุมงคลฯ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานมีตำแหน่งงานว่างกว่า 79,000 อัตรา ซึ่งสถานประกอบการยังมีความต้องการแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก กระทรวงแรงงานได้ฝึกทักษะแรงงานใหม่ ให้มีทักษะที่จะทำงานได้ ส่วนเรื่องอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกันยายน 2562 อยู่ที่ 64.73% ซึ่งต่ำสุดนับแต่เดือนธันวาคม 2554 หรือในรอบ 94 เดือนนั้น รมว.แรงงาน กล่าวว่า อัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 65% ยังถือว่าอยู่ในภาวะปกติ และเป็นอัตราที่กำลังพอดีพอเหมาะแล้ว ส่วนสถานการณ์ในอนาคต ยังต้องรอดูการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น

 

“ขณะนี้รัฐบาลมีแนวทางในการพัฒนาประเทศ โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบขนส่ง ซึ่งไม่ใช่การสร้างอุตสาหกรรม และในตอนนี้โครงการดังกล่าวได้เริ่มไปแล้ว  ภายในสัก 1-2 ปีเงินจะเริ่มออกมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเป็น 1.7 เท่า ส่วนโครงการอื่น ๆ ที่กระตุ้นการใช้จ่ายก็มีความจำเป็นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้" ม.ร.ว.จัตุมงคลฯ กล่าวในท้ายสุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0