สำหรับบริษัทเทคโนโลยีจะมีเรื่องไหนทำให้หุ้นขึ้นลงได้ดีเท่าเรื่องที่เกี่ยวพันกับเครือข่าย 5G ล่าสุด Intel ก็มีประสบการณ์หุ้นขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 4% ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากประกาศยกเลิกการสนับสนุนชิปโมเด็มสำหรับเครือข่าย 5G ในสมาร์ทโฟน ส่วน Qualcomm นั้นมาเหนือกว่า ด้วยการทำให้หุ้นขึ้น 22% จากกรณีที่เกี่ยวเนื่องกัน
โดยการประกาศของ Intel ในครั้งนี้ เป็นการออกมาประกาศยกเลิกการพัฒนาในธุรกิจชิปโมเด็มสำหรับสมาร์ทโฟนเท่านั้น ส่วนของเทคโนโลยีไร้สายสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ได้ยกเลิกแต่อย่างใด ซึ่งเหตุผลที่ซีอีโอ Intel อย่าง Bob Swan ชี้แจงก็คือ ยังไม่เห็นแนวทางการทำกำไรจากโปรดักท์ชิ้นนี้ และจะไม่มีการเปิดตัวชิป 5G สำหรับสมาร์ทโฟนในแผนการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ของ Intel สำหรับปี 2020 ด้วย
ผลต่อเนื่องจากการตัดสินใจยกเลิกแผนพัฒนาชิป 5G สำหรับสมาร์ทโฟนของ Intel ยังกระทบกับบริษัทใหญ่อีก 2 แห่ง นั่นคือ Apple และ Qualcomm ที่ออกมาประกาศในวันเดียวกันว่า Apple ได้ตกลงใจเซ็นสัญญากับ Qualcomm เพื่อใช้ชิปของ Qualcomm ใน iPhone เวอร์ชัน 5G ของทางค่ายแล้วเช่นกัน ซึ่งการประกาศนี้ส่งผลให้หุ้นของ Qualcomm กระโดดขึ้นไปทันที 22% เลยทีเดียว
ความไม่มั่นใจของ Intel และความกดดันของ Apple ที่มีแผนเปิดตัว iPhone 5G ให้ได้ภายในปี 2020 จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทุกอย่างออกมาในรูปนี้
อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้ Qualcomm มีอิทธิพลต่อ Apple มากเกินไป ทาง Apple เองก็มีแผนพัฒนาชิปของตัวเองออกมาเช่นกัน เพียงแต่ชิปดังกล่าวคาดว่าจะผลิตได้แล้วเสร็จในปี 2021 เท่านั้น
ส่วน Intel นั้น หลังจากงดการเทเงินลงในชิป 5G สักพัก สิ่งที่ Intel จะโฟกัสต่อไปก็คือชิปทั้งแบบ 4G และ 5G ในอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์ที่ใช้งานกันในศูนย์ Data-Centric เป็นหลัก
สำหรับผู้ใช้ iPhone ปี 2019 ยังเป็นปีที่ได้ใช้ชิปจาก Intel กันอยู่ เนื่องจาก Apple เองก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับตัวให้เข้ากับชิปของ Qualcomm อย่างไรก็ดี ในปี 2020 เป็นไปได้ที่ Qualcomm จะกลายเป็นซัพพลายเออร์รายหลักเพียงรายเดียวของ iPhone ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตลาดไม่มากก็น้อย
