โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ยังดุเดือด! ม็อบ 'จอร์จ ฟลอยด์' ฮือทั่วสหรัฐ เรียกร้องยุติธรรม 'ชาวผิวสี'

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 31 พ.ค. 2563 เวลา 09.28 น. • เผยแพร่ 31 พ.ค. 2563 เวลา 09.28 น.
Demonstrators rally near the White House against the death in Minneapolis police custody of George Floyd in Washington, D.C.
REUTERS/Eric Thayer

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในสหรัฐอเมริกา จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินิโซตาใช้กำลังเข้าจับกุมชายผิวสีรายหนึ่งด้วยความรุนแรง จนกระทั้งชายคนดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความไม่พอใจจนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่ขยายวงกว้างทั่วประเทศ จนทำให้หลายเมืองของสหรัฐต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อความคุมฝูงชนในขณะนี้

ผู้ชุมนุมจำนวนมากต่างแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยชูป้ายประท้วง “I can’t breathe” (ผมหายใจไม่ออก) ซึ่งเป็นคำพูดของ “จอร์จ ฟลอยด์” ชายแอฟริกันอเมริกันผิวสีที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธนบัตรปลอม โดยปรากฏภาพในคลิปวิดีโอวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังถูก “เดเร็ก ชอวิน” เจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดที่ต้นคอเป็นเวลานาน จนกระทั่งเขาหมดสติเนื่องจากขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุเนื่องจากอคติทางสีผิว

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงเป็นจำนวนมาก โดยมีการทุบทำลายทรัพย์สินทางราชการ ไปจนถึงการวางเพลิงสถานีตำรวจและอีกหลายสถานที่ในเมืองมินนีแอโพลิส จนกระทั่งต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในเมือง โดย “ทิม วอลซ์” ผู้ว่าการรัฐมินิโซตา ได้เรียกระดมกองกำลังพิทักษ์ชาติมินนิโซตา (Minnesota National Guard) เต็มอัตรากำลังในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกำลังเข้าควบคุมฝูงชน หลังจากที่การประท้วงภายในรัฐยืดเยื้อและมีการบุกทำลายและปล้นทรัพย์สินของทางการหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองมินนีแอโพลิสและเมืองเซนต์พอลที่อยู่ใกล้เคียง

การประท้วงยังลุกลามบานปลายไปในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ลอสแอนเจลิส ไมอามี ชิคาโก แอตแลนตา ฟิลาเดลเฟีย เดนเวอร์ ซินซินนาติ พอร์ตแลนด์ ออริกอน ลุยวิลล์ เคนทักกี แดลลัส ซีแอตเทิล ซอลต์เลกซิตี และคลีฟแลนด์ โดยผู้ชุมนุมมีการปิดกั้นถนน ก่อกองเพลิง และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งหลายเมืองต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และผู้ว่าการของหลายรัฐอย่าง โอไฮโอ มิสซูรี วิสคอนซิน และเทนเนสซี ได้มีคำสั่งเตรียมพร้อมระดมกำลังกองกำลังพิทักษ์ชาติเพื่อรับมือกับผู้ชุมนุมแล้วในขณะนี้

ขณะที่สถานการณ์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐ กลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนได้รวมตัวกันใกล้อาคารกระทรวงยุติธรรม โดยชูป้ายข้อความประท้วง “black lives matter” (ชีวิตคนดำมีความสำคัญ) เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับกรณีของนายฟรอยด์และให้มีการยุติการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติสีผิวในสังคมอเมริกา

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้กระจายตัวไปยังทำเนียบขาวด้วย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ระบุผ่านบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนตัวข่มขู่ว่าจะใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม หากบุกรุกเข้ามาภายในพื้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี นอกจากนี้เขายังระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังทำให้ชื่อเสียงของจอร์จ ฟลอยด์เสื่อมเสีย และเจ้าหน้าที่สามารถเริ่มการใช้อาวุธปืนกับผู้ชุมนุมได้ทันที หากมีการบุกรุกและปล้นสะดมสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเดเร็ก ชอวินถูกปลดออกจากราชการแล้ว และถูกตั้งข้อหาการฆาตกรรม ซึ่งจะมีการเปิดไต่สวนคดีความในวันที่ 1 มิ.ย.นี้  ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกปลดออกจากราชการแล้วด้วยเช่นกัน เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำการเกินกว่าเหตุ

การประท้วงครั้งนี้นับเป็นความไม่พอใจล่าสุดต่อการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติสีผิวในสหรัฐ ที่ทำให้กลุ่มคนผิวสีจำนวนมากกลายเป็นคนกลุ่มน้อยที่ถูกกดทับทางสังคม และขาดโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีจากการเหยียดสีผิวที่ยังคงฝั่งรากลึกในสังคมอเมริกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0