ยุคกาลาคติกอส ของเรอัล มาดริด ถูกจดจำด้วยเหตุผลนานับประการ แต่จะมีสักกี่คนที่จำได้ถึงประสบการณ์ดูเหล่าซูเปอร์สตาร์เงินล้านลงสนามเล่นแค่ 6 นาที และเป็น 6 นาทีที่มีคุณภาพ ที่สามารถทำประตูชัยชนะคู่แข่งได้อย่างน่าทึ่ง
เหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในลา ลีกา เกิดขึ้นเมื่อมกราคมปี 2005 เมื่อกองทัพลอส บลังกอส ต้องเปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาเบว ลงสนามเล่นเกมต่อเนื่องอีกแค่ 6 นาที นัดรับมือเรอัล โซเซียดัด ศึกลา ลีกา
เริ่มเรื่อง เกมนี้แข่งขันตามโปรแกรมปกติ ดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 87 ขณะที่เสมอกันอยู่ 1-1 จากประตูของโรนัลโด้ และนิฮัต คาห์เวชี่ เกมต้องหยุดลงกลางครันหลังมีเหตุการณ์วางระเบิด
รายงานอ้างว่า เป็นคำขู่จากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ ที่แจ้งกับหนังสือพิมพ์ Gara’ ว่าจะระเบิดสนามในเวลา 21.00 น. ขณะที่เกมนี้เริ่มแข่งขันมาตั้งแต่เวลา 19.00 น.
ผู้ตัดสิน บิเซนเต้ โฆเซ่ ลิซอนโด้ คอร์เตส ตัดสินใจสั่งให้นักเตะย้ายออกจากสนามอย่างเร่งด่วน ขณะที่แฟนบอลกว่า 70,000 ก็ได้รับคำสั่งให้ออกจากสนามทันทีอย่างเป็นระเบียบ ก่อนมีการพิสูจน์ว่า ไม่มีการวางระเบิดจริง เป็นความผิดพลาดของสัญญาณเตือนภัย และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากเกมที่ถูกยกเลิกลงกลางครันนาทีที่ 87 ได้มีมติให้กลับมาแข่งขันกันต่อวันที่ 5 มกราคม ปี 2005 โดยให้นับเวลาต่อเนื่องจากนาทีที่ 87 รวมทดเวลบาดเจ็บอีก 4 นาที รวมแล้วต้องกลับมาแข่งขันใหม่ 6 นาที
กลายเป็นประสบการณ์แปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กับการเข้าชมฟุตบอลที่ใช้เวลาแข่งขันไม่เกิน 10 นาที
เรอัล มาดริด ตอนนั้นได้กุนซือใหม่เป็น วานเดอร์เลย์ ลุกซอมบูร์โก้ ทำงานเป็นนัดแรกแทนที่ มาเรียโน่ การ์เซีย เรมอน
และเหล่าขุนพลกาลาคติกอส ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง เมื่อใช้เวลาร่วมๆ 8 นาที(รวมทดเจ็บอีก 2 นาที) กดประตูชัยคว้าชัยชนะเหนือโซเซียดาดได้สำเร็จ 2-1 จากความ โรนัลโด้ ที่สับขาหลอกเรียกจุดโทษได้สำเร็จ และเป็นซีเนอดีน ซีดาน ที่สังหารปลิดชีพผู้มาเยือนได้อย่างเยือกเย็น
แม้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะได้ 3 คะแนน แต่ท้ายที่สุด พวกเขามีแต้มเป็นรองบาร์เซโลน่า 4 คะแนนอยู่ดี ชวดคว้าแชมป์ลา ลีกา ซีซั่น 2004-05 ในที่สุด
