จำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของไซโคลน อิดาอี ในแอฟริกาใต้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีมากกว่า 700 รายแล้ว ขณะที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในโมซัมบิกเพิ่มอีก…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเซลโซ กอร์เรอา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินและสิ่งแวดล้อม ของประเทศโมซัมบิก เปิดเผยในวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของไซโคลน ‘อิดาอี’ ซึ่งพัดถล่มประเทศเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 417 รายแล้ว
ตัวเลขดังกล่าวทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมในประเทศที่ถูกไซโคลนลูกนี้เล่นงานได้แก่ โมซัมบิก, ซิมบับเว และมาลาวี มีมากกว่า 700 รายแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยสหประชาชาติระบุว่า จะรู้จำนวนผู้เสียชีวิตสุดท้ายหลังจากน้ำที่ท่วมสูงลดระดับลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เตือนในวันเสาร์ว่า แม่น้ำ บูซี และ แซมเบซี ในโมซัมบิก เสี่ยงที่จะล้นตลิ่งอีกครั้ง
ทั้งนี้ ไซโคลนอิดาอีส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 1.7 ล้านคนทั่วแอฟริกาใต้ ทำให้ประชาชนไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปาใช้ บ้านเรือนจำนวนมากถูกกระแสน้ำพัดทำลาย ถนนหลายสายถูกทำลาย ในโมซัมบิกมีประชาชนอีกหลายพันคนที่ติดค้างตามสถานที่ต่างๆ เพราะพื้นที่ถูกกระแสน้ำท่วมตัดขาด ขณะที่ศูนย์บรรเทาทุกของรัฐบาลก็เพิ่งเริ่มได้รับเสบียงอาหาร แม้ว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะเกิดขึ้นมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้วก็ตาม
เมื่อวันศุกร์ เริ่มมีรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรค ในเมืองเบรา ของโมซัมบิก ซึ่งเป็นจุดที่ไซโคลนขึ้นฝั่งครั้งแรก ซึ่งสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) เตือนว่ามีความเสี่ยงที่จะมีโรคอื่นๆ ระบาดอีก นอกจากมาลาเรียที่ระบาดอยู่แล้ว
