นิวยอร์ก, 10 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ทางการรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐฯ เผยว่าจนถึงวันพุธ (8 ก.ค.) โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุด 5 แห่งของรัฐ ต้องเจอกับสถานการณ์ขาดแคลนเตียงสำหรับผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) ขณะที่โรงพยาบาลอื่นๆ อีก 4 แห่ง เหลือเตียงให้บริการเพียงร้อยละ 5 หรือน้อยกว่า
รัฐมิสซิสซิปปีเป็นหนึ่งในรัฐที่มีรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มมากที่สุดในประเทศ โดยข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่าเทศมณฑลเกรนาดา ซึ่งมีเตียงผู้ป่วยหนักเพียง 9 เตียง ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
"เรากังวลอย่างยิ่ง" อุสตาฟ นันดิ แพทย์ฉุกเฉินประจำศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี (University of Mississippi Medical Center) ในเมืองแจ็กสัน เมืองหลวงของรัฐ กล่าว "แม้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่ทุกคนกังวลมากที่สุดในขณะนี้ แต่เราก็ไม่ควรละเลยโรคอื่นๆ ระหว่างการระบาดใหญ่ เราต้องการดูแลผู้ป่วยเมื่อพวกเขาเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะบาดเจ็บ และการติดเชื้ออื่นๆ"
เทต รีฟส์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ว่าเริ่มตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ประชาชนที่อาศัยในเทศมณฑล 13 แห่งที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากที่สุด จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ขณะที่เจ้าของธุรกิจจะต้องตรวจคัดกรองเชื้อให้ลูกจ้างของตน
รีฟส์ระบุว่าขณะเดียวกันรัฐบาลจะจำกัดจำนวนการชุมนุมในอาคารไม่เกิน 10 คน และในพื้นที่กลางแจ้งไม่เกิน 20 คน ใน 13 เทศมณฑลดังกล่าว ขณะที่ขีดจำกัดของจำนวนผู้เข้าชุมนุมในทั่วทั้งรัฐอยู่ที่ 50 คน ในอาคารและ 100 คน ในพื้นที่กลางแจ้ง
