สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 ม..ค ว่าคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศ นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ถึง ณ วันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าอยู่ที่อย่างน้อย 80 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเฉพาะในจีนอยู่ที่อย่างน้อย 2,744 คน โดยศูนย์กลางของโรคยังคงเป็นมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คนเฉพาะเมื่อวันอาทิตย์
#BREAKING China reports 769 new virus cases, totalling 2,744 nationwide
— AFP news agency (@AFP) January 26, 2020
ส่วนสถิติผู้ป่วยสะสมในต่างประเทศ ที่ไม่ใช่ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน พบแล้วในอย่างน้อย 11 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐ แคนาดา ฝรั่งเศส มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเนปาล
ด้านนพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเขาอยู่ระหว่างเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง “เพื่อส่งเสริมความเป็นพันธมิตร” กับรัฐบาลจีน “ในการยกระดับความสนับสนุนการป้องกันโรคระบาด”
Building on experience and systems already in place for related pathogens, @WHO has activated global networks of experts, quickly developed advice for countries everywhere, and is working with them to activate their response systems. #coronavirus
— Tedros Adhanom Ghebreyesus (@DrTedros) January 26, 2020
It can take weeks to months from when a paper is submitted until publication.
Sharing pre-publication 2019-nCoV papers with WHO will help us analyze the #coronavirus situation as it evolves, in real time. This helps us to provide the most informed advice and act more quickly. pic.twitter.com/QvN3WPeDy6
— World Health Organization (WHO) (@WHO) January 26, 2020
ขณะเดียวกัน ดับเบิลยูเอชโอออกแถลงการณ์ด้วยว่า กองบรรณาธิการของวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายสำนักตกลงส่งผลงานก่อนเผยแพร่ให้กับดับเบิลยูเอชโอ โดยได้รับความยินยอมจากผู้จัดทำผลงานแล้ว ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของการประเมินสถานการณ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอยังไม่ประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน “เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” แต่เตือนว่าสถานการณ์ในจีนอยู่ในขั้น “วิกฤติ” ในระดับภูมิภาคถือว่า “สูง” และ “ปานกลาง” ในระดับโลก.
เครดิตภาพ : AP
