หลังจากที่ทาง Apple ได้เปิดสั่งจองทั้ง 3 รุ่นอย่าง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ไปแล้วอย่างเป็นทางการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว ตามรายงานจากเว็บไซต์ Phonearena ได้กล่าวว่ายอดขายของ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะมียอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ทาง Apple ได้กำหนดไว้
ยอดขายของ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะลดลงถึง 20% -30% ซึ่งจะลดลงกว่ารุ่นก่อนของปี 2018 อย่าง iPhone XS และ iPhone XS Max ในขณะที่ iPhone 11 ยังคงครองตำแหน่งของยอดขายที่มากที่สุดของ Apple เพราะมีการอัพเกรดที่มากกว่า iPhone XR แถมยังมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ Ming-Chi Kuo ได้ทำนายว่ายอดขาย iPhone 11 อาจจะผิดหวัง เพราะเนื่องจาก “ขาดจุดขายที่เป็นนวัตกรรม” โดยระบุว่า Apple จะมียอดขายอยู่ที่ 65-70 ล้านเครื่องในช่วงปี 2019 และลดลง 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขายโดยรวมของ iPhone ในปี 2019 จะอยู่ที่ 180 ล้านเครื่อง เพราะได้รับส่วนลดจากรุ่นก่อนหน้านี้
และในขณะที่ประกาศเปิดตัว iPhone 11 ทาง Apple ก็ได้ประกาศลดราคาลงสำหรับ iPhone XR, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ซึ่ง iPhone XR เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 ด้วยยอดลงทะเบียนสูงถึง 26.9 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายของ iPhone 11 Pro สำหรับปีนี้ อาจจะไม่ดีพอ เพราะเนื่องจากผู้ซื้อรอซื้อ iPhone 2020 ที่มาพร้อมเครือข่าย 5G ครั้งแรกและได้รับการออกแบบใหม่ รวมถึงการอัพเกรดของตัวกล้องอีกด้วย