จากกรณีประเด็นเผ็ดร้อนที่กรมสรรพากรออกประกาศแจ้งสถาบันการเงินเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้เจ้าของบัญชีเงินฝากต้องแสดงความยินยอมให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลบัญชีดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร ไม่เช่นนั้นจะถูกหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ทุกเดือนมิ.ย. และธ.ค. ทันที แม้มีรายได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาทก็ตาม ซึ่งทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งล่าสุดกรมสรรพากรต้องยอมสั่งทบทวนออกประกาศใหม่เพื่อลดผลกระทบต่อเจ้าของบัญชี
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 62 นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้าน ยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยความคืบหน้าการออกประกาศการเว้นเก็บภาษีดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์ใหม่ หลังประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยว่า ในสัปดาห์หน้ากรมสรรพากรจะออกประกาศการเว้นเก็บภาษีดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์ใหม่ เพื่อลดผลกระทบกับผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ทั่วประเทศกว่า 80 ล้านบัญชี โดยประกาศใหม่กรมสรรพากรจะใช้อำนาจให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากเงินออมทรัพย์ทุกบัญชีมาให้กรมสรรรพากร เพื่อประมวลผลว่ามีผู้ใด้มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเกิน 2 หมื่นบาทหรือไม่ หากบุคคลใดได้รับดอกเบี้ยเกินก็จะส่งข้อมูลกลับไปให้ธนาคารพาณิชย์หักดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ส่งกรมสรรพากร
อย่างไรก็ตาม ผู้ฝากเงินที่ไม่ประสงค์ให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากให้กรมสรรพากร ก็สามารถแจ้งกับทางธนาคารพาณิชย์ได้ แต่ทางธนาคารจะต้องหักดอกเบี้ยเงินฝากทั้งหมดให้กรมสรรพากรและหากผู้ฝากเงินเห็นว่าไม่มีภาระดอกเบี้ยเงินฝากเข้าเกณฑ์จะต้องเสีย ก็ให้มาขอยื่นคืนภาษีตอนสิ้นปีภาษีได้
