เอเจนซีส์ – ผู้ประท้วงที่ยังหลงเหลืออยู่ใน “โพลียู” ยอมมอบตัวเมื่อเช้าวันอังคาร (19 พ.ย.) ขณะที่ผู้นำฮ่องกงแสดงความหวังว่า การเผชิญหน้าจะจบลงอย่างสันติ พร้อมสั่งปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประท้วงราว 100 คนที่ยังไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจและหลบอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นวันที่ 3 ขณะที่จีนส่งสัญญาณอีกครั้งว่า ใกล้หมดความอดทนกับการประท้วงที่ดำเนินมาเกือบ 6 เดือน
การเผชิญหน้าระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเริ่มต้นมาตั้งแต่วันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ซึ่งมีการปะทะกันหลายจุดตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ประท้วงจำนวนมากที่ถูกปิดล้อมอยู่ในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค (โพลียู) พยายามหนีออกจากวงล้อม
เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ผู้ประท้วงหลายร้อยคนถูกนำตัวออกจากโพลียู หลังจากนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาหลายคนตกลงกับตำรวจ ประมาณ 22.00 น ผู้ประท้วงอีก 50 คนทยอยออกมาอีกระลอก บางคนในจำนวนนี้มีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไป และบางคนบาดเจ็บที่ขา ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
ผู้ประท้วงคนหนึ่งที่มีผ้าห่มคลุมตัวเล่าว่า นอนไม่หลับมาหลายคืนและหวาดผวาว่า ตำรวจจะบุกจู่โจมระหว่างถูกล้อมอยู่ภายในมหาวิทยาลัย และบอกด้วยว่า ที่พวกเขาตัดสินใจออกมาเพราะหิว หนาว บาดเจ็บ และภายในมหาวิทยาลัยมีเสบียงเหลือไม่มากนัก
แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวในวันอังคารว่า ได้กำหนดหลักการสองข้อร่วมกับตำรวจในการจัดการการเผชิญหน้า ได้แก่ การพยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติ และปฏิบัติต่อผู้ประท้วงที่บาดเจ็บหรือเยาวชนอย่างมีมนุษยธรรม
ลัมเสริมว่า ผู้ประท้วงออกจากโพลียูไปแล้วราว 600 คน ซึ่งรวมถึง 200 คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ตั้งแต่ตำรวจเริ่มปิดล้อมเมื่อวันอาทิตย์ โดยรัฐบาลจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวและจัดการให้ผู้ประท้วงที่ยังเหลืออยู่ออกจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายอย่างสันติและปูทางให้ตำรวจยุติความรุนแรงในฮ่องกง
ผู้นำฮ่องกงยังกล่าวอีกว่า ภายใต้หลักการพิเศษนี้ ผู้ประท้วงอายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้หลังจากให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับตำรวจ แต่สงวนสิทธิ์ในการจับกุมผู้ประท้วงเหล่านี้ในภายหลัง
บรรยากาศเงียบสงบช่วงสายวันอังคารแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากช่วงก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ตอนที่ผู้ประท้วงหัวรุนแรงคุมเชิงที่บริเวณทางเข้าโพลียู ตั้งแต่เวลา 4.00 น. หลังปะทะรุนแรงกับตำรวจปราบจลาจลมากว่า 24 ชั่วโมง และทำให้สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นสนามรบ
ศาสตราจารย์ เต็ง จิน-กวง อธิการบดีมหาวิทยาลัยดังกล่าว ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ภายในมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยระเบิดขวดที่ยังไม่ได้ใช้ ขวดบรรจุแก๊ซไวไฟสูง และอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ถูกทิ้งไว้
นักศึกษาและผู้ประท้วงอายุต่ำกว่า 18 ปีกว่า 200 คน ออกจากมหาวิทยาลัยกลางดึกวันจันทร์ เช่นเดียวกับผู้ประท้วงวัยผู้ใหญ่ประมาณ 100 คนที่ถูกจับกุมทันที
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประท้วงราว 100 คนที่ยังไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจและหลบอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นวันที่ 3 ขณะที่จีนส่งสัญญาณอีกครั้งว่า ใกล้หมดความอดทนกับการประท้วงที่ดำเนินมาเกือบ 6 เดือน
หลิว เสียวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ประกาศกร้าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลฮ่องกงพยายามอย่างมากที่จะทำให้สถานการณ์อยู่ภายใต้ความควบคุม แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น รัฐบาลกลางของปักกิ่งจะไม่นิ่งดูดาย พร้อมย้ำว่าจีนมีความเด็ดขาดและอำนาจในการยุติเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้น
ในวันอังคาร จาง ไต้เว่ย โฆษกรัฐสภาจีน ระบุในบทความที่เผยแพร่ผ่านสื่อของทางการว่า มีเพียงรัฐสภาจีนเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง ซึ่งเป็นการประณามการวินิจฉัยของศาลสูงฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ ที่ลบล้างคำสั่งของลัมในการห้ามผู้ชุมนุมสวมหน้ากาก
นอกจากนั้นภาพทหารจีนช่วยทำความสะอาดถนนในช่วงสุดสัปดาห์ยังทำให้บางคนกังวลว่า ปักกิ่งอาจแทรกแซงทางทหารเพื่อยุติวิกฤตการณ์บนเกาะแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ลัมได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า หากไม่สามารถจัดการกับผู้ก่อจลาจลและความรุนแรงที่ลุกลามได้ รัฐบาลจึงจะขอความช่วยเหลือจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนที่ประจำการณ์บนเกาะ
