"ช้างศึก" ทีมชาติไทย จบภาระกิจอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ คว้าชัยทั้ง 2 นัด บุกเฉือน ฮ่องกง 1-0 จาก ฟิลิป โรลเลอร์ และเล่นที่ จ.สุพรรณบุรี ชนะ ตรินิแดดแอนด์โตเบโก 1-0 จาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในเทสติโทเนียลแมตช์ "ตี๋" สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารวัย 36 ปี ที่ประกาศลาทีมชาติ เมื่อปีที่แล้ว
มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า พอใจกับผลการแข่งขัน เพราะทำให้เห็นว่ามีนักเตะที่ดีอยู่เช่นกันหลายคน พร้อมทั้งขอบคุณแฟนบอลที่มากันแน่นสนามกีฬากลาง สุพรรณบุรี กว่า 1.5 หมื่นคน อยากมาแข่งที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับแฟนบอลจากทุกพื้นที่ และหวังว่าจะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้อีกเรื่อยๆ
ส่วนการเตรียมทีมสู้ศึกชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018" ซึ่งจะประเดิมสนามพบ ติมอร์เลสเต วันที่ 9 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน นั้น จะเรียกเก็บตัวอีกครั้ง วันที่ 23 ต.ค. โดย ราเยวัช ระบุว่า ตอนนี้ยังบอกเรื่องการตัดตัวได้ แม้ไทยลีกจะจบแล้ว แต่ยังเหลือรอบชิงฯ บอลถ้วย 2 รายการ คือ โตโยต้า ลีกคัพ วันที่ 20 ต.ค. สิงห์ เชียงราย พบ บางกอกกล๊าส และ ช้าง เอฟเอคัพ วันที่ 27 ต.ค. สิงห์ เชียงราย พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดังนั้นจึงขอเวลาตัดสินใจก่อน
ด้าน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย จาก ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ซึ่งจะไม่ร่วมซูซูกิคัพ กล่าวว่า ในตำแหน่งกองหน้า มีหลายคนที่เล่นแทนได้ แต่ต้องให้เวลา และให้โอกาสด้วยไม่มีใครเล่นได้ดีในช่วงแรกๆ หรือตอนที่โอกาสไม่เพียงพอ ต้องให้เวลาปรับสปีด ปรับระดับของฟุตบอล
"ผมเชื่อว่า ประเทศไทยไม่เคยขาดศูนย์หน้าดีๆ ก็หวังว่าจะมีน้องๆ ขึ้นมาแทน ขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ในอนาคต สิ่งสำคัญที่สุดคือน้องๆ ที่ไปเล่นต้อง เชื่อมั่นในตัวเอง ร่วมกันทำงานหนัก เพราะทีมเวิร์คคือหัวใจของฟุตบอล"
ขณะที่ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน จากวิสเซล โกเบ ซึ่งไม่เล่นชิงแชมป์อาเซียนเช่นกัน กล่าวว่า ผลงานทีมไทย ที่พบ ตรินิแดด ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ดี แต่แม้จะชนะมาได้ ส่วนตัวคิดว่าทีมยังมีหลายสิ่งต้องปรับปรุง ทั้งสปีดบอลและการเคลื่อนที่ หวังว่าจะพัฒนาขึ้น ก่อนถึงเอเชียน คัพ
สำหรับ ธีรศิลป์, ธีราทร รวมทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะกลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง ในเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้นปีหน้า