โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มือเผาไล่ที่ 'มูลนิธิคุณหญิงส้มจีน' กลับใจมอบตัว ลั่นพร้อมกระชากหน้ากากคนบงการ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 17 ส.ค. 2562 เวลา 12.44 น. • เผยแพร่ 17 ส.ค. 2562 เวลา 12.19 น.
มือเผา

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม นายศุภกร สุขกันตะ อายุ 49 ปี (เดิมชื่อนายสุริยา สุขกันตะ) ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับ ร.ต.ท.ดล ชูเกลี้ยง พนักงานนสอบสวน สภ.คลองหลวง ในคดีเผาไล่ยึดที่ดินมรดกของมูลนิธิคุณหญิงส้มจีน ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังในปี 2558 และ 2560

นายศุภกรกล่าวว่า ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บงการที่ว่าจ้างให้กลุ่มผู้ต้องหาไปกระทำการใดๆ ในคดีทำร้ายร่างกายชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส คดีเผาหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และคดีใช้รถแบ๊กโฮรื้อบ้านประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในที่ดินของคุณหญิงส้มจีนดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่กลุ่มผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัวในครั้งนี้ เนื่องจากไม่ได้รับการเยียวยาและไม่ได้รับเงินในการว่าจ้างผู้ต้องหา จึงขอเข้ามอบตัวพร้อมจะกระชากหน้ากากของผู้บงการเพื่อให้สังคมรับทราบ

นายศุภกรกล่าวว่า ที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ เพื่อต้องการช่วยทางราชการเนื่องจากคดีที่เกิดภายในชุมชนซอยศรีปทุม หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งตนรับรู้แทบทุกเรื่องในช่วงระหว่างปี 2559-2560 มีเหตุการณ์ที่ทำร้ายชาวบ้าน โดยที่ตนมีส่วนรู้เห็นและไม่อยากมีบาปติดตัว รวมถึงรู้สึกสงสารชาวบ้านด้วย ถึงตนจะผิดก็ยอมรับผิด แม้จะถูกดำเนินคดีก็ยอมรับทุกอย่าง เพราะว่าตนต้องการเปิดเผยถึงผู้ว่าจ้างว่ามีการกระทำอย่างไร ให้ตนทำอะไรไปบ้าง และได้ว่าจ้างใคร ซึ่งผู้ที่ร่วมกระทำกว่า 10 คน พร้อมที่จะมามอบตัว เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ

ส่วนสาเหตุที่มามอบตัวล่าช้าหลังจากเกิดเหตุมานานแล้ว เนื่องจากส่วนหนึ่งมีความน้อยใจ ที่ตนไม่ได้รับเงินในการทำงาน ตนต้องสำรองจ่ายก่อน เมื่อมีปัญหาผู้ว่าจ้างก็ทิ้งเลย แม้แต่ตนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล บาทเดียวก็ไม่ช่วยออกค่ารักษาเลย ลูกชายตนเสียชีวิตก็ไม่ช่วยค่าทำศพเลย

“ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อผู้ว่าจ้างได้ ซึ่งเขาควรที่จะช่วยเหลือชาวบ้านรวมถึงช่วยเหลือในส่วนที่ตนควรจะได้บ้าง แต่ผู้ว่าจ้างก็ไม่มีการติดต่อ เคยพูดมาจะให้เงินเพียง 50,000 บาท แต่ตนจ่ายไปก่อนกว่า 100,000 บาท นอกจากที่มาวันนี้จะมาให้ปากคำแล้ว ยังได้นำหลักฐาน ประกอบด้วย 1.บุคคลที่ร่วมกระทำความผิด 2.หลักฐานเกี่ยวกับการรับเงิน คลิปเสียง รูปภาพ ที่จะนำไปเป็นประโยชน์ต่อคดีกับผู้ว่าจ้างได้” นายศุภกรกล่าว

โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กลับไปรวบรวมเอกสารหลักฐานมาใหม่และจะให้กับพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้โดยตรง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0