จากกรณีคนร้ายใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สวมเสื้อแจ๊กเกตบุกใช้ปืนยิง ว่าที่ ร.ต.ศักดิ์ชาย มีสมบูรณ์ หรือทนายไฝ อายุ 55 ปี ทนายความชื่อดังของ จ.สมุทรสาคร จนเสียชีวิต ภายสำนักงานทนายความ เลขที่335/46 หมู่ 1 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว ก่อนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์ที่หลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจพุ่งไปที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางคดี
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ บก.ป. นายอำนาจ หรือแฮค สงคราม อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ข้อหา“ความผิดต่อชีวิต พรบ.อาวุธปืน ” และ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. และพ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ชุดสืบสวนเร่งสืบหาเบาะแสคนร้ายจนทราบตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ 2 รายคือ นายอำนาจ มือปืน และนายพงษ์อนันต์ หรือเบิร์ด จันแพง อายุ 38 ปี ทำหน้าที่พานายอำนาจหลบหนี จึงรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งนายพงษ์อนันต์ ชิงเข้ามอบตัวก่อนที่ สภ.บ้านแพ้ว เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนที่ในวันนี้ นายอำนาจ จะติดต่อขอเข้ามอบตัวอีกราย
พ.ต.อ.วีระ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2557 นายอำนาจ ได้ตกเป็นจำเลยในคดีใช้ปืนยิง นายประทีป ศรีสวัสดิ์ คู่อริเสียชีวิตภายในงานบวชที่ จ.สมุทรสาคร ต่อมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ก่อนจะนัดเจรจาไกล่เกลี่ยให้ นายอำนาจ ชดใช้สินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียชีวิต 1.5 ล้านบาท โดยมีว่าที่ร้อยตรีศักดิ์ชาย ผู้ตาย ซึ่งเป็นทนายความฝ่ายผู้เสียหายเป็นผู้ประสานงานไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่าย แต่นายอำนาจกลับเข้าใจผิดคิดว่าเรื่องจะจบลงในชั้นของตำรวจและไม่ถูกดำเนินคดีจึงยอมจ่ายเงินให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย
แต่ในความเป็นจริงแล้วการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวเป็นเพียงแค่เงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการลบล้างความผิดทางคดี กระทั่งต่อมานายอำนาจได้ทราบว่าคดีดังกล่าวมีการส่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดสมุทรสาครและมีการออกหมายจับในคดีดังกล่าว จึงไม่พอใจและเข้าใจว่าถูกว่าที่ร้อยตรีศักดิ์ชายซึ่งเป็นทนายฝั่งคู่กรณีหลอกลวงจึงได้มาก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบสวนนายอำนาจยังคงให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้นเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านแพ้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
