จากกรณีเหตุยิงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนสายไชยา-สี่แยกไชยา ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านพบรอยเลือด โดยนายณรงค์เดช สังข์สิงห์ อายุ 25 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม. ที่ลำตัว 3 แห่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลไชยา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ล่าสุด นายจิรายุทธ หรือ โจ้ เศวตศิลป์ อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ไชยา โดยให้การภาคเสธว่าเคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายมาก่อน และก่อเหตุเพราะต้องการป้องกันตัว โดยผู้ต้องหาได้รับประกันตัวไป (อ่าน : แฝดพี่ช็อก แฝดน้องถูกยิงดับคาร้านข้าว งงไม่รู้จัก เชื่ออาถรรพ์เบญจเพส ผวาได้ประกันตัว)
วันที่ 17 ก.พ. 63 นายจิรายุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 1 ตนและภรรยาพร้อมลูกสาววัย 2 ขวบ ขับรถออกไปซื้อข้าวใกล้กับที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงร้านข้าว กลุ่มของผู้ตายกว่า 10 คน ได้หันปลายกระบอกปืน ทั้งปืนยาว ปืนสั้น มาทางรถตน เนื่องจากหนึ่งในกลุ่มของผู้ตาย ชื่อนายบอล เคยมีเรื่องบาดหมางกับตน
ตนจึงถอยรถกลับมาที่หน้าร้าน และเดินลงจากรถ พร้อมพูดว่า “ถ้าอยากยิงก็ยิงเลย” แต่อีกฝ่ายไม่ยิง ตนจึงเดินกลับไปที่รถและบอกกับภรรยาว่าให้โทรบอกพ่อว่าตนกำลังจะถูกยิง และเมื่อตนเดินกลับมา พวกเพื่อนของผู้ตายก็มาล็อกคอตน ลากเดินออกไปนอกรัศมีกล้องวงจรปิด
จากนั้นนายณรงค์เดชได้กระโดดชกตน และพรรคพวกเขาได้ชักปืนและจ่อมาที่ตน ทำให้ตนตกใจและจำเป็นต้องใช้ปืนที่พกอยู่กับตัว ยิงออกไปเพื่อป้องกันตัว อีกฝ่ายก็กระหน่ำยิงตนกว่า 20 นัด ทำให้ตนต้องหนีขึ้นรถและขับหนี อีกฝ่ายก็ยังยิงตามหลังมาอีกหลายนัด ซึ่งเมื่อตนหนีไปตั้งหลัก ก็ได้มอบตัวทันที เพราะอยากพิสูจน์ตัวเอง และให้กฎหมายตัดสิน ตนก็รู้สึกเสียใจที่ยิงนายณรงค์เดช เนื่องจากตนและเขาก็ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่กลับถูกนายบอลใช้ให้ทำร้ายตน ตนต้องป้องกันตัว
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องยิงมาในรถที่ลูกเมียตนนั่งอยู่ด้วย ซึ่งตนคิดว่าพวกเขาหวังเอาชีวิตตนและเมีย กระหน่ำยิงจนรถตนมีรอยกระสุน และยางแตกด้วย อย่างไรก็ตาม อยากให้สังคมรับรู้ความจริง เพราะทุกฝ่ายโจมตีว่าตนเป็นคนไม่ดี จึงอยากให้ดูตามคลิปว่าอีกฝ่ายก็มีปืนและยิงตนก่อน
น.ส.จูน (นามสมมติ) ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุ ขณะที่ตนและลูกสาววัย 2 ขวบอยู่ในรถ ตนก็เห็นกลุ่มเพื่อนของผู้ตายกระหน่ำยิงใส่สามีอย่างหนัก และยิงมาทางรถที่ตนนั่งอยู่ด้วย ในนาทีนั้นตนพยายามโอบกอดลูกสาวเพื่อบังกระสุน เพราะถ้าหากกระสุนทะลุประตูจะได้ถูกตนก่อน ตอนนั้นตนรู้สึกกลัวมาก เพราะเสียงปืนดังมาก ยืนยันว่าในช่วงที่สามีเดินกลับมาที่รถ ตนไม่ได้เป็นคนส่งปืนให้ แต่เขาพกปืนอยู่แล้ว ในคลิปนั้นเป็นช่วงที่ตนยื่นโทรศัพท์ให้สามีเพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากพ่อ
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้สังคมเข้าใจว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ชกต่อยสามีตนก่อน เรื่องก็คงจะไม่บานปลาย แต่ตนก็รู้สึกสงสารผู้เสียชีวิต เพราะเขาคงรักเพื่อนเขา จึงออกตัวแทนนายบอลและเข้ามาชกสามีตน
https://youtu.be/947WKVgp_NA