โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

มิชลิน ประกาศแผนปี 2048 ชูสมรรถนะคู่สิ่งแวดล้อม

Manager Online

อัพเดต 18 มิ.ย. 2561 เวลา 00.27 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2561 เวลา 00.27 น. • MGR Online

มิชลิน ประกาศนโยบาย ปี 2048 ยกระดับสมรรถนะยางควบคู่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมทุ่มงบพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ดึงใช้วัตถุดิบรีไซเคิล 80% พร้อมเล็งรีไซเคิลยาง 100%

มิชลิน ประกาศนโยบายแห่งอนาคต ในงาน Movin’On2018 โดยกำหนดเป้าหมายภายใน ปี 2048 มิชลิน ได้ทำการลงทุนในเทคโนโลยีรีไซเคิลระดับสูง เพื่อเพิ่มอัตราการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตเป็น 80% และยางทุกเส้นจะนำเข้ากระบวกการรีไซเคิลได้ทั้งหมด 100%

ปัจจุบัน อัตราการนำยางรถยนต์ทั่วโลกกลับไปใช้ใหม่ได้ อยู่ที่ 70% และอัตราการรีไซเคิลยางอยู่ที่ 50 % ซึ่งยางมิชลินในปัจจุบัน ผลิตด้วยวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 28% โดย 26% เป็นวัตถุดิบชีวภาพ และอีก 2% เป็นวัตถุดิบรีไซเคิล

สิ่งสำคัญของความสำเร็จในแผนการครั้งนี้ คือ โครงการวิจัยต่างๆ ของบริษัทที่เกี่ยวกับวัตถุดิบชีวิภาพ ทั้งร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีในระดับสูงที่กำลังร่วมกันพัฒนาวัตถุดิบใหม่ๆ ขึ้นอีกหลายชนิด

มิชลินกำลังพัฒนาโซลูชั่นส์ใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อนำวัตถุดิบรีไซเคิลและวัตถุดิบที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้มาผนวกในการผลิตให้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับการยกระดับสมรรถนะของยางรถยนต์มิชลินไปด้วยกัน รวมถึงการใช้วัตถุดิบรีไซเคิลให้ได้ 80% ภายในปี 2048

ล่าสุด มิชลินได้เข้าซื้อกิจการ Lehigh Technologies บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีผงยางไมโครไนซ์ (Micronized Rubber Powers-MRP) เป็นวัตถุดิบรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบถึง 50% หากไม่ลดสมรรถนะของยางจึงถือได้ว่า Lehigh มีเทคโนโลยีด้านวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “Green for Free”

สำหรับวัตถุดิบ MRP จะถูกนำไปใช้แทนที่น้ำมันและวัตถุดิบประเภทยางอื่นๆ ที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งภาคอุตสาหกรรมและโดยผู้บริโภคทั่วไป โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ Lehigh จะทำงานใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการใช้งานแต่ละประเภท

Lehigh มีโรงงานผลิต MRP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองทัคเกอร์ รัฐจอร์เจีย อเมริกา มีกำลังการผลิตสูงถึง 54,000 ตันต่อปี ทั้งยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ทันสมัย และเป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ มิชลิน ใช้ทำวิจัยและค้นคิดสูตรการผลิต MRP ที่เหมาะสมร่วมกับลูกค้าแต่ละราย

ปัจจุบัน มิชลิน มีสินค้ากลุ่มนี้ 5 ประเภท คือ PolyDyne™, MicroDyne™, EkoDyne™, Rheopave™ และ Zenoflex™ ทั้งยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นส์ใหม่ๆ ในตลาดหลักอีกด้วย Christophe Rahier, Director of the High Technology Materials Business Line ของมิชลิน ให้ความเห็นว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของมิชลินที่จะใช้ความชำนาญด้านวัตถุดิบไฮเทคของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่จำกัดเพียงแค่เรื่องของยางรถยนต์เท่านั้น แต่จะส่งเสริมให้มีการใช้นวัตกรรมวัตถุดิบรีไซเคิลจากยางรถยนต์เหล่านี้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกด้วย”

ด้านการรีไซเคิล ข้อมูลจาก World Business Council for Sustainable Development ปี 2018 ประมาณการณ์ว่า มียางที่หมดอายุการใช้งานเกิดขึ้นถึง 1 พันล้านเส้นทั่วโลก มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 25 ล้านตัน ในแต่ละปี 70% ของยางเหล่านี้จะได้รับการบูรณะใหม่ เพื่อนำกลับมาใช้ต่อ ในขณะที่ 50% จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งเมื่อได้วัตถุดิบรีไซเคิลมาแล้วก็จะนำไปใช้ในกระบวนการผลิตบางประเภท เช่นการใช้เป็นวัตถุดิบยางที่นำไปทำพื้นผิวสนามกีฬา ในขณะที่อีก 20% จะนำไปใช้ในการผลิตพลังงาน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0