มิชลิน ไกด์ของฝรั่งเศสปี 2019 ที่เผยออกมาเมื่อวันจันทร์มีจำนวนร้านอาหารของเชฟหญิงเพิ่มขึ้น เดินหน้าแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางเพศในอาชีพเชฟ
ในปี 2019 มีร้านอาหารของเชฟหญิง 11 แห่งที่ได้ดาวมิชลินไปครองจากร้านอาหารทั้งหมด 75 ร้านที่ได้ดาวมิชลินไม่ว่าจะ 1,2 หรือ 3 ดวง โดยหนึ่งนั้นคือร้าน Baieta ของเชฟ Julia Sedefdjian ขณะที่เชฟ Stephanie Le Quellec ก็ได้ดาวดวงที่ 2 ไปประดับร้าน La Scene ของเธอ
มิชลิน ไกด์ในปีนี้แตกต่างกับปี 2018 อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากปีที่แล้วมีร้านอาหารของเชฟหญิงแค่เพียง 2 ร้านเท่านั้นและทั้ง 2 แห่งก็เป็นการเปิดกิจการร่วมกับเชฟชายด้วย ขณะที่ย้อนกลับไปสู่มิชลิน ไกด์ปี 2017 มีร้านอาหารของผู้หญิงเพียงร้านเดียวเท่านั้นจากร้านอาหารที่ “ติดดาว” เพิ่มทั้งหมด 70 ร้าน
เกวนดัล ปูเล็นเนค ผู้อำนวยการนานาชาติคนใหม่ของมิชลิน ไกด์ให้สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงมิชลิน ไกด์ปีนี้ด้วยการสนับสนุนเชฟรุ่นเยาว์มากความสามารถและเชฟหญิงมากขึ้น โดยเขากล่าวว่า “มันเป็นการสะท้อนพลวัตอันยิ่งใหญ่ในวงการอาหารฝรั่งเศสในทุกแคว้นที่มีร้านอาหารของเหล่าเชฟรุ่นใหม่มากความสามารถ ผู้ที่มักเป็นเจ้าของกิจการที่ยอมเสี่ยง”
อย่างไรก็ตาม ปูเล็นเนคย้ำในการให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผู้ตรวจสอบมิชลินไม่ได้ทำงานภายใต้ “โควต้า” ใดหรือ “ลดเกณฑ์มาตรฐานลง” แต่อย่างใด พวกเขาเพียงแค่หาร้านอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปีนี้ ทั้งความหลากหลายในแง่ประวัติของเชฟและสไตล์การทำอาหาร
มิชลิน ไกด์ในปีนี้มีเชฟต่างชาติหลายคนที่ได้รับดาวเช่นกันโดยส่วนมากเป็นเชฟชาวญี่ปุ่น ขณะที่เชฟ Mauro Colagreco ชาวอาร์เจนตินาเป็นเชฟต่างชาติในฝรั่งเศสเพียงคนเดียวที่มีดาวมิชลิน 3 ดวง ซึ่งเชฟวัย 42 ปีก็แสดงความดีใจและกล่าวว่า “ความรู้สึกมากมายไปหมด ขอบคุณ! ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก”
ทั้งนี้ ร้านอาหาร Mirazur ของเขาถูกจัดอยู่อันดับที่ 4 บนรายชื่อ World’s 50 Best Restaurants
