ก้าวช้าๆมาตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือน มิกค์ ทองระย้า จะเปรี้ยงปร้างขึ้นมาพร้อมๆกัน ทั้งในเรื่องของงานและความรัก
พอทักเรื่องนี้ ดาราหนุ่มซึ่งหล่อเป๊ะเหมือนที่เห็นในจอทีวีก็ยิ้ม แบบติดจะเขินๆ แล้วจึงว่าช่วงที่ผ่านมาสำหรับเขา คือ “เราค่อยๆสะสม”
มิกค์ซึ่งเริ่มต้นจากการเข้าประกวดรายการ Dream Star Search ที่เฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ แล้วคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ในปี 2551 เล่าว่า เขาเองก็เหมือนกับนักแสดงอีกหลายคนที่เริ่มต้นจากการมีบทบาทไม่มากนักในเรื่อง จากนั้นค่อยๆขยับ โดยกับช่อง 7 เขาเริ่มจากการรับบทเป็น ‘น้องพระเอก’ ก่อนจะก้าวเป็น ‘ตัวร้าย’ มาได้เป็นพระเอกก็เมื่อเข้าวงการมาแล้วราวๆ 4-5 ปี ในละครเรื่อง ‘ลูกผู้ชายพันธุ์ดี’ ที่ออกอากาศเมื่อปี 2557
ซึ่งถ้านับจากวันนั้นที่อายุเพิ่งจะ 17 ปี ถึงวันนี้ก็อยู่ในวงการมาได้ราว 10 ปีแล้ว และเป็น “10 ปีที่ค่อยๆไปมาก”
หากกระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าช้า
“แต่แบบค่อยๆพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆมากกว่า” ว่าอย่างนั้น
“เรื่องแรกๆที่เล่น เราไม่เข้าใจในเรื่องของการแสดงเลย ว่าเป็นอย่างไร ต้องทำแบบไหน การตีโจทย์ต้องทำอย่างไร”
ใช้เวลาเรียนรู้อยู่นาน จนเข้าใจนั่นละ ถึง ‘เล่นได้’ ในแบบที่ทุกคนได้เห็น
“โชคดีที่มีงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ถึงอาจจะไม่ใช่งานมาสเตอร์พีช แต่เป็นงานที่ค่อยๆพัฒนาตัวเรา ซึ่งมันก็ดีนะครับ ทำให้ฐานเราแน่นมาก ค่อนข้างพร้อมที่จะรับมือกับอะไรที่จะเข้ามา เราค่อยๆไต่จากจุดเล็กๆ แล้วพอมีอะไรที่ใหญ่ขึ้นมา เราค่อยรับมัน และทำได้”
ดีกว่าเริ่มต้นที่ใหญ่ๆ แล้วกลายเป็นทำไม่ได้ รับไม่ไหว-เขาว่า
ด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลาที่หลายคนอาจจะคิดว่านาน “สำหรับตัวเรา ไม่รู้สึกครับ”
“โชคดีที่เป็นคนที่เวลาวางเส้นเอาไว้ ถ้ามันมี 10 ขั้น เราก็วางไว้แค่ 5 แล้วถ้าทำได้ขั้นที่ 4-5 เราโอเคแล้ว”
และถ้าทำได้มากกว่า ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ ‘พิเศษ’
“ผมเป็นคนมองแบบนี้ ไม่เคยมองไปไกลมาก เพราะพอไปไม่ถึงเราจะรู้สึกไม่ดี จะค่อยๆมอง ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ”
ในปีนี้มิกค์บอกว่าเขามีงานดีๆ งานที่รู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ได้รับมอบหมายถึง 2 เรื่อง หนึ่งคือ ละคร ‘สะใภ้อิมพอร์ต’ ที่รับบทเป็น ‘ดล’ ทายาทเจ้าของฟาร์มที่เจอเงื่อนไขจากครอบครัวให้แต่งงานกับนางเอก ผู้หญิงที่เขาไม่ชอบใจตั้งแต่แรกพบ โดยเรื่องนี้ต้องแสดงประกบ มิน พีชญา วัฒนามนตรี โดยเรื่องนี้ที่ช่อง 7 HD เพิ่งนำแพร่ภาพทุกคืนวันจันทร์และอังคาร เวลา 20.20 น. ไปได้ไม่กี่ตอน แต่กระนั้นเสียงตอบรับจากแฟนๆก็มาไว
“หายเหนื่อยเลยครับ” นี่เป็นความรู้สึกที่เผยพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“แฟนๆบอกว่าชอบ สนุก ดูไปยิ้มไป”
เป็นคำแค่ไม่กี่คำก็จริง แต่ “แค่นี้ก็ทำให้เรามีความสุขกับผลงานแล้ว” เขาว่า
“เรื่องนี้เป็นโรแมนติคคอมเมดี้ เพราะฉะนั้นมันเป็นละครที่ให้รอยยิ้ม แล้วโชคดีมากที่เล่นพี่มิน”
‘พี่มิน’ ที่เคยแต่เห็นฝีมือผ่านผลงานละครเรื่องอื่นๆ แต่ไม่เคยได้ร่วมงานด้วย
“ดูผลงานเขามาเยอะพอสมควร ฝีมือดีมาก เล่นเก่งมาก”
ก่อนเล่นเขาจึงตั้งใจทำการบ้านอย่างดี
“พี่เขาก็ทำการบ้านมาดีมาก แล้วเรื่องนี้เขาเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ใส่เต็ม ไม่ว่าผู้กำกับจะให้ทำอะไร จับตัว อุ้ม หรือว่าเปื้อนโคลน เขาเต็มที่ทุกอย่าง”
“แล้วเป็นคนตลกมาก” อันนี้ไม่เกี่ยวกับงาน แต่เป็นการเม้าท์ถึงด้วยความรัก
“เขาดูแลตัวเองดีมาก ผิวพรรณ รูปร่างหน้าตา หุ่น ออกกำลังกายหนัก กินอาหารดี รู้เลยว่าทำไมเขาถึงสวยมาก เพราะเขาดูแลตัวเองดีมาก”
ส่วนเขาน่ะ ก็ต้องดูแลตัวเองเช่นกัน
เพราะอย่างที่รู้ๆ ว่าเดี๋ยวนี้ละครหลายเรื่องมักมีฉากให้นักแสดงชายถอดเสื้อ โชว์กล้ามสวยๆให้แฟนๆได้เห็น ซึ่งพอเป็นอย่างนี้เขาเองก็ต้องเตรียมพร้อม
“อันนี้กดดันกว่าทำการบ้านมาเข้าฉากอีก” สารภาพพลางหัวเราะ
“เพราะเราต้องดูแลหุ่น ต้องฟิต เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าวันไหนจะต้องถอดเสื้อ ก็ต้องดูแลตัวเองไว้”
อย่างไรก็ตาม “อาจไม่เฟิร์ม 100 %” พระเอกคนดังออกตัว
เพราะเรื่องนี้ตามบทแล้ว เขาเป็นเจ้าของฟาร์ม ดังนั้นถ้าซิกค์แพคไม่ชัด กล้ามไม่โตนัก ก็ถือว่าโอเคละเนอะ-มิกค์บอก
นอกจากเรื่องนี้ มิกค์บอกว่า เขายังมีละครอีกเรื่องคือ ‘จากศัตรูสู่หัวใจ’ ที่จะได้แสดงกับ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ
“ผมตื่นเต้นมาก” ถ้าได้มาฟังจากเสียง ดูจากแววตา เชื่อว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนเรา ว่าเขาหมายความตามคำพูด
“เป็นโอกาสที่ท้าทายมาก ดีใจครับ คิดมาตลอดว่าอยากทำให้ดีที่สุด”
ดีเหมือนกับที่กำลังตั้งใจกับเรื่อง ‘สะใภ้อิมพอร์ต’ อยู่
เพราะ “สำหรับผมละครเรื่องนี้มันคือการให้รอยยิ้มกับคนดู ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย”
ยิ้มจากความสนุก ตลก น่ารัก
จากความตั้งใจของเขาและทีมสะใภ้อิมพอร์ตทุกคน ที่อยากให้แฟนๆ 7 สี “ดูแล้วมีความสุข”
นอกเหนือจากเรื่องาน มิกค์ยังพูดถึงโบว์ เมลดา ที่ใครๆกำลังจับตาเรื่องความสำคัญ รวมไปถึง ‘ก้าวใหม่’ ของงาน ที่จะทำให้แฟนๆได้เห็นเขาในอีกด้าน แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
คลิกฟังได้จากคลิปๆนี้
มิกค์ ทองระย้า ก้าวช้าๆกับงานและความรัก
มิกค์ ทองระย้า ก้าวช้าๆกับงานและความรัก
โพสต์โดย Matichon Online – มติชนออนไลน์ เมื่อ วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2020
