มิกกี้ เปิดใจคุกเข่าขอ เจนี่ แต่งงาน ลั่น! ไม่สนอดีตฝ่ายหญิง
วันที่ 22 ก.ค. ที่ สนามแม็กซ์ มวยไทย สเตเดียม พัทยา จ.ชลบุรี มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดแคมเปญ “สมหวัง ฮุคเต็มหมัด…จัดเต็ม MAX” เปิดใจครั้งแรกหลังคุกเข่าขอนางเอกรุ่นพี่ ‘เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ’ แต่งงาน พร้อมอัพเดตการเตรียมงานแต่ง
- เจนี่ แต่งรอบสอง ฟุ้ง มิกกี้ โตกว่าอายุ อุ่นใจแม่ฝ่ายชายเอ็นดู เปรยอยากมีลูกแล้ว
- ทะเลยังหวาน! “มิกกี้” เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอ “เจนี่” แต่งงานสุดโรแมนติกริมทะเล
โดย ‘มิกกี้’ เผยว่า “จริงๆ แล้วแพลนไว้ตอนแรกจะทำที่กรุงเทพฯ ก่อน แต่หลายๆ อย่างหลายๆ คนไม่พร้อม เราก็เลยรู้สึกว่าไปเงียบๆ แล้วกัน แล้วถ้าจะเงียบๆ ก็ไปที่อเมริกาก็แล้วกัน เพราะเรามีแพลนจะไปเที่ยวกันอยู่แล้วก็เลยจัดที่นู่น วันนั้นจริงๆ ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกเจนี่เขาใส่ไว้ว่า เดือนมิถุนายนเนี่ยมี 31 วัน แล้ววันที่ 31 ถึงจะไปทะเล แต่มิถุนายนมันมี 30 วันเนอะ เราก็เพิ่งรู้ที่หลัง ทีนี้เราก็ต้องรีบบอกกับคนที่นู่นให้เตรียมใหม่ ซึ่งเช้าวันนั้นเจนี่จะไม่ไปเพราะอยากซักผ้า อยากทำอะไรของเขา เกือบไม่ได้ไป แต่เราก็พยายามดันให้ไป ว่าเราไม่เคยมา เลยอยากไปแบบนี้ครับ”
ตอนคุกเข่าทำยังไง?
“ตอนที่คุกเข่าพูดตรงๆ ว่าเราก็ตื่นเต้น ตื่นเต้นสองอย่าง คือหนึ่ง เราจะขอเขาเราก็ตื่นเต้น สองเขาก็จะไม่เป็นใจให้เรา เพราะว่าเขาอยากจะรีบกลับ แล้วอีกอย่างวันนั้นผมเล่นแต่มือถือเตี๊ยมกับเพื่อนเขา แล้วเขาคงรู้สึกว่ามาเที่ยวทำไมเล่นมือถือเยอะ เขาก็อยากรีบกลับ อารมณ์ไม่ค่อยดีแล้ว แต่เราก็ตื่นเต้นพยายามรั้งๆ เขาไว้ แต่เขาจะรีบเดินไปอย่างเดียว ส่วนเพื่อนเขาก็ส่งสัญญาณมาแล้ว เราก็คุกเข่าเลยแล้วกันไม่รู้จะพูดอะไร”
กลัวเขาปฏิเสธไหม?
“ผมก็ไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าเขาจะปฏิเสธนะ แต่คุกสองเข่าแล้ว ไม่น่าจะปฏิเสธแล้วนะครับ กลัวแค่เขาจะกลับก่อนแค่นั้นเองครับ ตอนที่คุกเขาก็พูดว่า “เบบี๋แต่งานกับไอนะ” พูดสั่นๆ ครับผม เขาก็น้ำตาไหล ผมก็น้ำตาไหล แล้วก็สวมแหวน ซึ่งก็จะมีเพลงคลออยู่ข้างหลัง อันนี้เตรียมไว้ครับ ตอนเขาตอบรับผมก็ตื่นเต้นจนหูดับ คิดอยู่แค่ว่าจะขอเขาแต่งงานอย่างเดียว”
โพสต์ที่แชร์โดย Mickey Allapach Na Pombhejara (@mickey.a.np) เมื่อ ก.ค. 5, 2018 เวลา 2:27am PDT
ทำไมถึงรีบตัดสินใจ หลายคนบอกว่าช่วงเวลาที่รู้จักกันน้อย?
“เป็นคำถามที่หลายคนถาม สำหรับผมเป็นคนที่รู้ว่าต้องการอะไร คือตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่า ภายในช่วงเวลานี้เราอยากได้อะไร อยากมีอะไร หรือเราจะทำอะไรก็แพลน แล้วเราเป็นคนที่รู้ว่าต้องการอะไร หรืออย่างคุณพ่อคุณแม่คบกันสามเดือน แต่งงานอยู่กันมา 25-30 ปี ซึ่งผมรู้สึกว่า เวลาที่คบกันไม่ใช่ปัญหาครับ ถามว่าอะไรเป็นความรู้สึกว่าเราเลือกผู้หญิงคนนี้แหละ สำหรับผมเชื่อว่าหลายคนมีคุณแม่เป็นรักแรกที่รู้สึกว่าอบอุ่น แล้วเวลาที่ผมอยู่กับเจนี่ สิ่งที่เขาให้ผมหรือความรักที่เขามีให้เป็นสิ่งที่อ่อนโยนและทะนุถนอม ดูแลผมดีมาก”
เจนี่เขามีอดีต คุยกันยังไงบ้างเรื่องอดีต?
“ไม่เคยคุยเรื่องอดีตครับ เพราะว่าเราอยู่กับปัจจุบันและมองอนาคต เรื่องอดีตเอามาคุยกันไม่เกิดประโยชน์ครับ เลยไม่ได้พูดเรื่องอดีตเลย”
ขอถามตรงๆ ว่าเจนี่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ตอนที่เราตัดสินใจขอเขา เรากังวลไหมว่าเขาจะปฏิเสธเรา?
“สำหรับผม เจนี่เหมือนผม คือเขารู้ว่าใครเป็นยังไงและรู้ว่าต้องการอะไร ถ้าเขามั่นใจที่ตอบตกลงกับผม ผมก็เชื่อใจว่าเขามองเห็นว่าเราไปด้วยกันได้ ที่สำคัญเขาเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ได้ดีมากๆ คุณพ่อคุณแม่รักและเอ็นดูเจนี่เหมือนลูกแท้ บางทียังมีโมเมนต์รักมากกว่าผมอีก ตรงนี้เราก็รู้สึกว่าดีใจครับที่เข้ากับครอบครัวเราและที่บ้านได้ทุกคน”
แพลนงานแต่งงานว่ายังไงบ้าง?
“ตอนนี้เราก็ทำทุกอย่างเองครับ อย่างที่เจนี่พูดไป เราไม่มีเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะว่าเขาเป็นคนที่ละเอียด แล้วก็เลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ทุกอย่างในงานมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการ์ด การตกแต่งดอกไม้ทุกอย่าง เราไม่ได้ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ เหนื่อยนิดนึงแต่รู้สึกว่าคุ้มค่าครับ(ยิ้ม) ส่วนวันที่แน่นอนเรามีดูไว้แล้วนะครับ แต่ทีนี้อยากให้ใกล้กว่านี้ดีกว่า แล้วเดี๋ยวเราเชิญพี่ๆ สื่อทุกคนแน่นอนครับ ซึ่งเป็นเดือนตุลาคมครับ มี 2 ที่ จัดกับครอบครัว แล้วก็ญาติผู้ใหญ่ แล้วก็จะมีงานที่จัดกับกลุ่มเพื่อนเราเอง ส่วนพี่ๆ นักข่าวไปวันไหน เดี๋ยวผมแจ้งแน่นอน ได้ไปแน่นอนครับ(ยิ้ม) ถามว่าอีกที่หนึ่งนอกจากกรุงเทพฯ ใช่สมุยไหม คือเป็นต่างจังหวัดครับ กำลังดูโรงแรมอยู่ว่าที่ไหนสะดวกที่สุด”
อีกไม่กี่เดือนจะถึงวันงานแล้ว ตื่นเต้นไหม?
“ผมว่าคนรอบข้างตื่นเต้นมากกว่าตัวผมกับตัวเจนี่เองอีก เลยทำให้เรารู้สึกว่าตื่นเต้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
พอมาคบกับเจนี่ ทำให้เราถูกจับตามองมากขึ้น ชีวิตเราเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
“ผมทำตัวเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรก ไม่ได้มองว่าเราเป็นแฟนเจนี่ เราต้องมีหน้ามีตามากขึ้น ไม่เคยมองอย่างนั้น เราก็ใช้ชีวิตของเราปกติ แต่แค่ทำอะไรเราก็ต้องนึกมากขึ้นว่าตอนนี้เรามีเจนี่เข้ามาอยู่ในชีวิตเรา เราจะทำอะไร เราก็ต้องรักษาหน้าตาและภาพพจน์ของเขา ถามว่าก่อนหน้านี้ที่เป็นข่าวแล้วเรายังไม่ได้เปิดตัวรู้สึกอึดอัดไหม ไม่อึดอัด แต่หลายคนใจร้อนอยากให้เราตอบทันที ซึ่งเจนี่บอกตั้งแรกเลยว่าถ้ามีอะไรคืบหน้าหรืออัพเดต ทุกคนก็จะรู้เอง และเขาจะออกมาพูดเอง เราก็ใช้ชีวิตปกติ”
ได้ให้คำสัญญาอะไรกับเจนี่ไหมเพราะที่ผ่านมาความรักเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ?
“ผมว่าแค่คำพูดใครก็พูดได้ เราทำตัวให้เขาเห็นดีกว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาจะได้เห็นว่าเราเสมอต้นเสมอปลาย อนาคตจะเป็นยังไงเขาก็ทราบดี”
เรื่องลูกแพลนไว้ยังไง?
“ผมเป็นคนชัดเจนกับตัวเองมาตลอดว่าต้องการอะไร ทั้งเรื่องเรียนเรื่องบวช และผมอยากมีครอบครัวก่อนอายุ 30 ปี ส่วนเรื่องลูกเรากำลังคุยๆ กันอยู่ ถามว่าแต่งแล้วจะมีลูกเลยไหม เราก็หวังว่าแบบนั้นแต่ต้องดูคิว ดูงานของเราสองคนก่อน เดี๋ยวไม่มีคนดูแลลูก”
มีคนมาคอมเมนต์ค่อนข้างเยอะว่าเราขอเจนี่แต่งงานที่เดียวกับที่เคยขอแฟนเก่าแต่งงาน?
“ผมไม่เคยขอแฟนเก่าแต่งงานนะ แฟนเก่าก็ไม่ได้เข้ามาใกล้ชิดกับที่บ้านผม ผมไม่แน่ใจว่าข่าวมาจากไหน สำหรับการที่คนขุดข่าวเก่ามาโจมตีผม ผมก็ไม่สามารถห้ามเขาได้ แต่อยากให้เขาให้เกียรติกับคนที่เขาเขียนถึง อยากให้เขาให้ความเคารพเพราะเวลาเราทำงานในวงการเราจะได้ทำงานด้วยกันง่ายๆ ไม่ต้องมีเรื่องที่ไม่เกิดสาระขึ้นมา ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมกล้าพูดได้ว่าผมหยุดกับแฟนคนเก่าก่อนจะมาเริ่มใหม่ คุณพ่อคุณแม่ผมสอนมาให้เป็นลูกผู้ชาย ให้เกียรติ ให้ความเคารพ และยกย่องผู้หญิงทุกคน”
ถามถึงการที่เราเอาตราสัญญลักษณ์ประจำตระกูลมาใช้ในการ์ดแต่ง?
“จริงๆ เรามีตราประจำตระกูลมานานแล้ว แต่พอมีเรื่องแต่งงานเข้ามา ทำให้ผมเพิ่งได้รู้ประวัติอะไรหลายๆ อย่างของครอบครัวเหมือนกัน แม้กระทั่งตราประจำตระกูลก็เพิ่งเห็นเมื่อปีที่แล้ว ผมก็อยากให้เจนี่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเราครับ”
ขอบคุณภาพ IG :janienineeleven, mickey.a.np
